พระผงหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กรุงเทพฯ

[จ่าดับ จับเปาะะ]

หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเมีย พ.ศ.๒๔๑๓ โยมบิดาชื่อ เอี่ยม โยมมารดาชื่อ สุ่น ในวัยเยาว์โยมบิดามารดาได้นำไปฝากเรียนอักขระสมัยและบวชเป็นสามเณรกับ พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) พออายุครบบวชได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดทองนพคุณ ตรงกับปี พ.ศ.๒๔๒๑ ได้ศึกษาทางคันถธุระและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในระหว่างที่ท่านจำพรรษาที่วัดทองนพคุณท่านเคร่งครัดปฏิบัติลงอุโบสถสวดมนต์ไม่ขาด ท่องบ่นจนคล่องแคล่วตั้งแต่ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน จนถึงปาฏิโมกข์ ภายหลังชาวบ้านข้างวัดบางปะกอกทราบข่าวว่าท่านเป็นพระที่เคร่งปฏิบัติในศีลไม่ขาดตกบกพร่อง ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ประกอบกับที่วัดบางปะกอกขาดเจ้าอาวาสปกครองวัด จึงได้มาอาราธนานิมนต์ให้ท่านไปครองวัด หลวงพ่อพริ้งท่านได้ร่วมมือกับชาวบ้านบูรณปฏิสังขรณ์ กุฏิ โบสถ์ วิหาร และเสนาสนะอื่น ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมจนเรียบร้อยสวยงาม แม้ว่าท่านจะมาอยู่ที่วัดบางปะกอกต้องมีภาระหน้าที่มากมายก็ตาม แต่ท่านก็ไม่เคยละเว้นจากการฝึกพระกัมมัฏฐานที่ยึดถือปฏิบัติเป็นประจำ

หลวงพ่อพริ้ง ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนแก่กล้ามาตั้งแต่ยังเป็นสามเณรอยู่ที่วัดราชสิทธาราม มีเรื่องเล่ากันว่าท่านชอบธุดงค์จาริกไปในที่ต่าง ๆ และได้เคยเรียนวิชาร่วมอาจารย์เดียวกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านสนใจศึกษาเล่าเรียนวิชาล่องหนหายตัวและอยู่ยงคงกระพันชาตรีตั้งแต่เป็นสามเณรและสามารถทำได้โดยไม่ยาก

ท่านเป็นพระที่มีประชาชนตลอดจนเจ้านายเชื้อพระวงศ์ต่างรู้จักท่านเป็นอย่างดี โดยเฉพาะข้าราชการทหารเรือในสมัยนั้น ทุกวันเสาร์อาทิตย์ จะมีทหารเรือทั้งนายทหารและพลทหารมาขอของดีและลงกระหม่อมอย่างเนืองแน่น ในบรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงที่ไปมาหาสู่ท่านอย่างใกล้ชิดสนิทสนมก็คือ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือ เสด็จเตี่ยท่านมีความเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อพริ้งเป็นอย่างมาก โดยก่อนที่เสด็จเตี่ยจะให้ความเคารพศรัทธาหลวงพ่อพริ้งนั้น ท่านได้รับคำแนะนำมาจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ว่าหลวงพ่อพริ้งท่านเป็นพระอาจารย์ที่ทรงคุณ จึงได้นำข้าราชบริพารกว่าร้อยคนไปกราบนมัสการ เหตุการณ์ครั้งนี้หลวงพ่อพริ้งทราบก่อนด้วยอำนาจฌานอันแก่กล้า จึงได้ออกมารับอยู่ที่หน้ากุฏิ ยังความแปลกใจแก่เสด็จเตี่ยเป็นอย่างยิ่ง เสด็จเตี่ยท่านเคยทดสอบความขลังของหลวงพ่อพริ้งหลายอย่าง แต่ท่านก็แสดงความสามารถในทางวิทยาคมแก้ได้ทุกครั้ง จนในที่สุดเสด็จเตี่ยก็ยอมรับนับถือว่าเป็นพระอาจารย์รูปหนึ่งของท่าน ถึงกับนำพระโอรสมาอุปสมบทเป็นสามเณรที่วัดนี้ถึง ๓ องค์ด้วยกัน

หลวงพ่อพริ้ง นับเป็นพระอาจารย์อีกรูปหนึ่ง ที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เดินทางมาขอต่อด้านกัมมัฏฐานกับท่าน นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ และนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกในทุกๆ ครั้ง โดยมีครั้งหนึ่งได้ขอให้หลวงพ่อพริ้งลงอักขระบนแผ่นทองเพื่อนำไปหลอมรวมกับแผ่นทองที่พระอาจารย์อื่นลงไว้ในพิธีหล่อพระกริ่ง แต่แผ่นทองที่หลวงพ่อพริ้งลงนั้นกลับไม่ละลาย แม้จะบอกกล่าวตามพิธีแล้วก็ตาม ทำให้ต้องนิมนต์ท่านมายังพิธี แผ่นทองนั้นจึงละลายได้อย่างง่ายดาย

ในยุคนั้นไม่ว่าจะมีพิธีพุทธาภิเษกที่ไหน จะต้องมีหลวงพ่อพริ้งร่วมพิธีแทบทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมนต์หลวงพ่อพริ้งไปทำพิธีปลุกเสกเสื้อยันต์และผ้ายันต์ที่วัดชนะสงคราม ขณะที่หลวงพ่อพริ้งนั่งปลุกเสกเดี่ยวอยู่นั้น ปรากฎว่าผ้ายันต์ที่กองอยู่ กระพือพรึ่บไปมาเหมือนมีลมมากระทบ ทั้งๆ ที่ทำพิธีอยู่ภายในพระอุโบสถซึ่งปิดประตูหน้าต่าง เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้เข้าร่วมพิธีในครั้งนั้น

สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นนั้น มีด้วยกันมากมายหลายประเภท ทั้งเหรียญรูปเหมือน พระปิดตา พระเนื้อผงแบบต่าง ๆ เหรียญหล่อเนื้อโลหะ เครื่องรางรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่เป็นไม้แกะ ลูกอมเนื้อผง ผ้ายันต์ ฯลฯ ในด้านพุทธคุณนั้นเป็นที่ประจักษ์ทั้งแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี เป็นที่ร่ำลือกันมาอย่างยาวนาน

ขอบคุณ ชอบธรรม

[ผู้สาวมักเมา]

สาธุค่ะ