• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

เหรียญหลวงพ่อวงศ์ วัดมะกอก รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า

เริ่มโดย บอย ท่าพระจันทโครพ, ธ.ค 18, 2022, 08:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

บอย ท่าพระจันทโครพ

เหรียญหลวงพ่อวงศ์ วัดมะกอก รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า

       หลวงพ่อวงศ์ เกิดวันอังคารแรม ๒ค่ำเดือน๘ปีขาล พ.ศ.๒๔๒๑ ตำบลบ้านคล้ออำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัยเด็กชอบศึกษาเล่าเรียนอักขระ โดยเฉพาะกับพระอาจารย์ซื่อดังสมัยนั้น อาทิ พระอาจารย์อินทร์ สำนักวัดเสาธรใหม่ พระอาจารย์แจ้ง วัดอนงคาราม พระอาจารย์ทองวัดเชิงท่า เป็นต้น วัยเด็กสุขภาพไม่ดีต้องหยุดรักษาตัวบ่อยๆ จนเมื่ออายุครบบวชจึงได้พรรพชาอุปสมบท ณ วัดเสาธงใหม่ วันที่ ๑มิถุนายน พ.ศ.๒๔๔๑ หลวงปู่วงศ์เป็นพระที่ใฝ่ศึกษา จึงทำให้ท่านต้องแสวงหาครูบาอาจารย์อยู่เป็นประจำท่านได้อยู่จำพรรษาตามวัดต่างๆ หลายวัด เช่น วัดเสาธงใหม่ วัดมะกอก วัดทองบางระมาด วัดสุวรรณคีรี วัดภาวนาภิรตาราม เขตบางขุนนท์ท่านเคยป่วยจนต้องมารักษาตัวอยู่ที่วัดมะกอกเป็นเวลานาน เมื่อท่านหายป่วยแล้ว ท่านก็จาริไปเรียนวิชากับครูบาอาจารย์อื่นอีก เมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมะกอกว่างลง ท่านจึงมารับเป็นเจ้าอาวาส วัดมะกอกตามคำอาราธนาของคณะกรรมการสงฆ์ ท่านเจริญสมณศักดิ์ตามลำดับ ชั้นเป็นพระครูสมุห์ พระครูสังฆพินิจ ดำรงตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์ โดยเป็นเจ้าคณะแขวงหลังของอำเภอตลิ่งชัน เป็นพระอุปชฌาย์ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๔และเป็นพระครูวิสุทธิศีลาจารย์ เมื่อปี พ.ศ ๒๕๐๒ จึงได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นพิเศษ เป็นพัด จ.ป.ร.

       หลวงปู่วงศ์ได้ร่วมกับข้าราชการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลชึ้น โดยพัฒนามาจากศาลาการเปรียญ เป็นโรงเรียนโดยสมบูรณ์ จากทุนรัฐบาทและทุนของท่าน ทำให้โรงเรียนประชายบาลแห่งนี้ ได้เปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๒เป็นต้นมา ตลอดชีวิตในสมณเพศของหลวงปู่วงษ์ ท่านใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาวัดมะกอก ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ด้วยวิชากรรมฐาน การคร่ำศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่เรืองวิชาในยุคนั้น ทำให้ท่านมีจิตใจเยือกเย็นแข็งแกร่ง ด้วยจิตกรรมฐาน หลวงปู่เป็นพระที่พุดช้าแต่คำพุดของท่านไพเราะเพราะพริ้งเป็นอย่างยิ่ง คำพูดของท่านบ่งบอกความรู้สึกภายในว่า อารมณ์ความเยือกเย็นของพระธรรมที่หล่อหลอมให้ท่าน เป็นผู้มีเมตตาธรรม แต่ยังมีช่วงแห่งการทดลองจิตใจ ด้านอิทธิฤทธิ์ของท่านคือการบังคับกระสุนที่ยิงจากคันกระสุนให้เป็นไปตามอำนาจจิต เรียกว่า วิชากระสุนคต ผู้ที่สำเร็จวิชานี้ ต้องมีอำนาจจิตที่แข็งแกร่งจึงสามารถบังคับกระสุนให้ไปตามทิศทางที่กำหนดได้ครูพิพัฒน์วรคุณ เจ้าอาวาสวัดมะกอกรูปปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่วงษ์เคยใช้วิชากระสุนคตสั่งสอนเด็ก โดยยิงไปทางทิศตะวันออก แต่ปรากฏว่าเสียงเด็กตกต้นไม้ทางทิศตะวันตก เป็นต้น วิชาลักษณะแบบนี้พระเถราจารย์ร่วมสมัยหลายรูป เคยแสดงไว้และปรากฏให้เห็นเป็นตำนานมากมายหลายองค์ หลวงปู่วงษ์สร้างวัตถุมงคลไว้ไม่กี่รุ่น ส่วนมากเป็นการร้องขอของลูกศิษย์ เหรียญรุ่นแรก เป็นเหรียญเสมา มีด้วยกัน ๓เนื้อ คือ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง และเนื้ออาปาก้า ปรากฏว่าเหรียญรุ่นนี้เป็นที่นิยมของลูกศิษย์ ใครที่มีต่างก็หวงแหนไว้ วัตถุมงคลที่สร้างชื่ออีกรุ่นหนึ่งคือแหวนปลอกมีด รูปลักษณ์ไม่ค่อยสวยแต่ที่น่าแปลก คือ ใครใส่แหวนรุ่นนี้แล้ว ห้ามไปงมปลาหาปลาเป็นอันขาด เพราะจะทำให้แหวนหลุดหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เป็นที่ทราบกันว่า ท้องน้ำแถบตลิ่งชัน บางระมาด มีปลาซุกชุมมากเพียงใด จึงทำให้ปัจจุบันแทบจะไม่มีใครรักษาแหวนปลอกมีดของท่านไว้ได้เลย (หายากมาก)

       ผลงานการบูรณะวัดมะกอกยังเป็นไปต่อเนื่อง สิ่งที่ท่านก่อสร้างทั้งภายในวันวัดและรอบๆวัด เช่นสร้างสะพานข้ามคู สร้างถนน สร้างกุฏิ สร้างหอสวดมนต์ และสร้าง ศาลาการเปรียญ โดยซื้อศาลาการเปรียญจากวัดชนะสงคราม มาสร้างคล่อมศาลาการเปรียญหลังเก่า หลวงปู่วงศ์ เคยบูรณะปฏิขรณ์ซ่อมแซมวิหาร และองค์พระป่าเลไลย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ ถือว่าเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ ผ่านมาถึงปัจจุบันสภาพวัดมะกอกได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคืออุโบสถ ท่านได้ทำการก่อสร้างหลังจากท่านหายจากอาพาธ ซึ่งทำให้ท่านรักษาตัวอยู่หลายเดือน แต่ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็ง ทำให้ท่านเริ่มซ่อมแซมอุโบสถที่ชำรุดทรุดโทรม โดยทำการสร้างใหม่ทั้งหลังเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๑ใช้ทรัพย์ส่วนตัวและทรัพย์ที่ญาติโยมทำบุญบริจาค รวมปัจจัยทั้งสิ้น สี่แสนห้าหมื่นบาทเศษ ทำให้อุโบสถวัดมะกอกมีความสวยงามอย่างมากในสมัยนั้น

       หลวงปู่วงศ์ เจริญอายุ ๘๔ปี เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ คณะศิษย์ได้จัดงานฉลองพัดยศ จ.ป.ร.แก่ท่านภายในงามเติมไปด้วยความอบอุ่น เพราะหลวงปู่วงศ์เป็นที่เป็นพระอุปัชฌย์และเป็นเจ้าคณะตำบล บางระมาดตลิ่งชัน ทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาร่วมงานของหลวงปู่ด้วยความปลื้มปิติยินดี ภาพหลวงปู่นั่งในอิริยาบถ ด้านขวามือเป็นพัดยศสมณศักดิ์ เรียกว่าพัดยศ จปร. ซึ่งน้อยรูปในสมัยนั้นที่จะได้รับ พระผู้ที่ถือพดยศ จปร. ต้องมีคุณูปการต่อพระศาสนาจริงๆ นับว่าในวัย๘๔ปี ของหลวงปู่ จึงเปรียบเสมือนท่านได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จนครบทุกด้าน โดยเริ่มศึกษาของท่าน ต้องใช้ความพากเพียรเป็นอย่างมาก และที่สำคัญร่ายกายของท่าน มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนอยู่ตลอดเวลา การคร่ำเคร่งศึกษาวิชาก็ดีการบูรณะก่อสร้างวัดวาอารามก็ดี ทำให้ท่านเจ็บป่วยคราวละหลายๆ เดือน และบางคราวต้องรักษาตัวเป็นปีก็มี

       หลังจากทำบุญอายุ ๘๔ ปีของท่านผ่านพันไป หลวงปู่ก็ดำเนินชีวิตในวัยชราด้วยความสุข สงบเย็น อาศัยอารมณ์กรรมฐานซึ่งท่านชำนาญอยู่แล้วบวกความสุขุมเยือกเย็นในจิต ทำให้ท่านครองชีวิตมนสมณเพศมาอย่างยาวนาน เป็นพระรัตตัญญูของแขวงบางระมาด-ตลิ่งชัน เป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนต่อมาอีกหลายปี ความโศกสลดของบรรดาศิษย์ยานุศิษย์เกิดขึ้นอีกครั้งใหญ่ เมื่อหลวงปู่วงศ์ได้ละสังขาร ในวันที่ ๑๒ ธันวาคม๒๕๑๒ สร้างความเศร้าโศกให้แก่คณะศิษย์เป็นอย่างยิ่ง ภาพนั้นยังตรึงติด ลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง ภาพนั้นยังตรึงติด ลูกศิษย์รวมทั้งคณะสงฆ์ร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งหมดนั้นอยู่ในอาการสงบ ทั่งทั้งศาลาไม่เสียงพูดคุยใดๆ

       ภาระหน้าที่ในพระพุทธศาสนาของหลวงปู่หยุดลงแล้ว เหลือแต่คุณงามความดีที่หลวงปู่ได้สร้างสมอรมไว้ จะเป็นเสมือนอนุสรณ์ความทรงจำ ให้ชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงหลวงปู่วงศ์ ว่าท่านมีคุณูปการแด่พระพุทธศาสนาอย่างไร และท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวบางระมาด-ตลิ่งชัน ในยุดก่อนสืบทอดมาถึงเจ้าอาวาสวัดมะกอกรุ่นต่อๆ มาว่า เมื่อสมัยหลวงปู่วงศ์มีชีวิต จิตของท่านมีแต่การสร้างกุศล สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อวงศ์ท่านสร้างไว้มีไม่มากนัก จึงเป็นที่แสวงหาของบรรดาลูกศิษย์ทุกคน

       เหรียญหลวงพ่อวงศ์ รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้าที่ท่านได้เห็นอยู่นี้ ท่านสร้างเหรียญรุ่นแรก เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น เมื่อ ปี ๒๕๐๕ ในครั้งทำบุญอายุครบ ๘๔ ปี มีทั้งเนื้อเงิน เนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง จำนวนการสร้างรวมแล้วไม่น่าจะเกิน ๓๐๐๐ เหรียญ บางเหรียญหลวงพ่อเมตตาจารให้เป็นกรณีพิเศษ เหรียญนี้มีพุทธคุณสูงมาก โดดเด่นด้านคงกระพันมหาอุตเป็นที่สุด ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย และเมตตามหานิยม ก็มีประสบการณ์สูงอีกด้วย ในเหรียญสภาพสวยงาม สนนราคาหลักหมื่น ย่านสาย1ประสบการณ์สูงสุด

FB : วิรัตน์ ท่าพระจันทร์

You cannot view this attachment.