พระสมเด็จข้าวสารหินหลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จันทบุรี ของดี

[ฟลุ๊กพระเครื่อง]

พระสมเด็จข้าวสารหินหลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จันทบุรี ของดี ซึ่งปัจจุบันพระชุดนี้หายากเต็มทีแล้วครับ

ตามความเชื่อข้าวสารหินเป็นของวิเศษ กายสิทธิ์ มีอานุภาพในเรื่องโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยจากภัยนานาประการ ไม่มีสิ่งใดๆ มาทำร้ายได้ มีคุณวิเศษพุทธานุภาพเหลือคณานับ ด้านต่างๆ เป็นของทนสิทธิ์ มีเทพเทวาเทวดาเทพารักษ์คอยรักษาอยู่ และเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุชนิดหนึ่ง

ตามตำนานบางตำนานเชื่อกันว่า เป็นข้าวสารที่พระพุทธเจ้าพระองค์ฉันเสร็จแล้วทำการอธิษฐานเพื่อให้เป็นของมงคลใน แผ่นดิน

ตามความเชื่อความศรัทธาที่มีมาข้าวสารหินเป็นของวิเศษสุด มีฤทธิ์ตามธรรมชาติ ข้าวสารหินเป็นของดี ไม่เน่าเปื่อย คงทนถาวร มีพลังอำนาจเป็นที่รวมพลังของ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงเกิดเป็นพลังเร้นลับ ตามความเชื่อถือที่มีกันมา และพระเกจิคณาจารย์ท่านนำมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลตามความเชื่อ บรรยายรายละเอียดประกอบตามข้อมูลการจัดสร้างพระสมเด็จของหลวงพ่อเขียน ที่ท่านนำมาสร้างและปลุกเสกบรรจุพุทธคุณไสยเวทย์เพื่อให้เกิดความเข้มขลังกำกับไว้
หลวงพ่อเขียน ท่านเป็นพระเกจิคณาจารย์ที่มีพุทธาคมไสยเวทย์ที่ไม่ธรรมดา

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของ เขาคิชฌกูฏ

จากเรื่อเล่าขาน และตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของ เขาคิชฌกูฏที่มีมาอย่างช้านาน ว่าถ้าใครได้ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่อยู่บนยอดเขานั้นแล้วอยากได้หรือต้องการให้สิ่งใดลุล่วงผ่านไปได้ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งนั้นจะได้ดังใจหวัง ทำให้เขาคิชฌกูฏเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีผู้สนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก1ปีจะมีแค่ครั้งเดียว เท่านั้น สำหรับปี 2553นี้ วัดกะทิง ได้กำหนดจัดงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท และบำเพ็ญศีลภาวนาเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ได้กำหนดจัดงานเทศกาลขึ้น ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2553 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2553 โดยกำหนดให้มีพิธี "ปิดป่า" เปิดงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎ

รอยพระพุทธบาทเขาคิฌกูฎแห่งนี้ได้ถูกพบเมื่อปี พ.ศ. 2397 ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,000 เมตร นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นรอยพระพุทธบาทที่มีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร หลังการพบมีพุทธศาสนิกชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทอยู่เนืองๆ โดยเดินทางเท้าขึ้นไป และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 พระครูเขียน ขนฺธสโร เจ้าอาวาสวัดกะทิง ในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันมีสมณศักดิ์เป็นพระครูธรรมสรคุณ ได้บุกเบิกทางขึ้นและนำรถยนต์ขึ้นเขาเป็นครั้งแรก และค่อยๆ พัฒนาเส้นทางขึ้นยอดเขาให้ดีและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้นจนถึงปัจจุบัน เทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฎ จะเริ่มตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี เป็นระยะเวลา 60 วัน สำหรับปีนี้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม 2553 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2553

ดังนั้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ที่ต้องการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาแห่งนี้ ปลอดภัยจากภยันตรายระหว่างการเดินทางขึ้นไปตามป่าเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ท่านพระครูธรรมสรคุณ (ท่านพ่อเขียน ขนฺธสโร) จึงได้กำหนดให้มีพิธี"ปิดป่า" เปิดงานเทศกาลฯ ขึ้น โดยจัดเตรียมเครื่องสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทำพิธีบูชา ณ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน และขึ้นไปทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาคิชฌกูฎเมื่อถึงจุดหมายหลัก คือ รอยพระบาท

ควรกราบนมัสการรอยพระบาท - รอยพระหัตถ์ - หยาดพระโลหิต ก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยดอกไม้ 3 ดอก ธูป 3 - 16(บน) ดอก เทียน 2 เล่ม ทอง 9 แผ่น เงิน 9 บาท

จากนั้นก็กราบพระขอพร พรมน้ำมนต์ นั่งสมาธิ แล้วแต่ศัทธา

แหล่งข้อมูลจาก ศิลป์เจริญพร

[โบ้บ้องแบ้ว]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับ

[บอง]

เป็นอีกรุ่นที่หาชมได้ยาก