• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

ท้าวเวสสุวรรณ พระครูสอน วัดมักกะสัน

เริ่มโดย จ่าดับ จับเปาะะ, ก.ค 31, 2023, 08:20 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

จ่าดับ จับเปาะะ

ท้าวเวสสุวรรณ พระครูสอน
พระครูสอน วัดมักกะสัน เป็นลูกศิษย์ของ ท่านเจ้ามา (พระพุฒาจารย์มา) วัดสามปลื้ม ผู้สร้าง พระกริ่งล้มลุก อันโด่งดังในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5
วัดมักกะสันได้จัดสร้าง พระชัยวัฒน์ ขึ้นมาแจกจ่ายเป็นครั้งแรก เมื่อประมาณพ.ศ.2484 โดยได้เจริญรอยตามท่านเจ้ามา ผู้เป็นพระอาจารย์ ซึ่งจะสังเกตได้จากลักษณะของ พระชัยวัฒน์ ที่ พระครูสอน สร้างจะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ พระชัยวัฒน์ของท่านเจ้ามา และมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง ทำให้พระชัยวัฒน์รุ่นนี้ขึ้นอันดับทำเนียบ พระชัยวัฒน์ยอดนิยม พิมพ์หนึ่งของวงการนักสะสมพระสายนี้
นอกจาก พระชัยวัฒน์ แล้วพระครูสอน ยังได้จัดสร้าง พระผงผสมว่านสบู่เลือด อีกด้วย มีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เม็ดบัว พร้อมกันนี้ท่านได้สร้างพระพิมพ์ ท้าวเวสสุวรรณ อีกจำนวนหนึ่งไม่มากนัก คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก แต่คนรุ่นเก่าทราบกันดีว่า พุทธคุณนั้นสุดยอดเหนือคำบรรยายใดๆ
ท้าวเวสสุวรรณ ใต้ฐานอุดผงพุทธคุณเต็มๆ ซึ่งเป็นผง ที่ท่านได้ไปศึกษาหาความรู้จากหลวงปู่ภูวัดอินทร์ในช่วงประมาณปี 2470 เมื่อสำเร็จวิชาแล้วจึงนำมาสร้างผงวิเศษเพื่อใช้บรรจุไว้ใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณเนื้อดินผสมผงรุ่นดังกล่าวลักษณะผิวพรรณและวิธีการสร้าง เสมือนพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ไม่มีผิด ทั้งลักษณะเนื้อดิน และการอุดผงพุทธคุณไว้ใต้ฐาน อีกทั้งอายุการสร้างก็พอๆกัน
ปัจจุบัน ท้าวเวสสุวรรณ พระครูสอน แท้ๆหายากมากนานๆจะพบเห็นเปลี่ยนมือออกมาสักองค์ ราคาทะยานขึ้นเร็วมากเผลอแป๊บเดียวราคาเกินครึ่งแสนมาแล้ว ของทำเลียนแบบมีมากมายหลายฝีมือ ท่านที่ไม่เคยเห็นของจริงหรือยังไม่ศึกษาอย่างดีพออย่าใจร้อนรีบหยิบ อาจโดนได้ครับ พระครูสอนท่านสำเร็จวิชาลบผง สร้างผงพุทธคุณจากหลวงปู่ภู วัดอินทาราม บางขุนพรหมในราวปี 2470 จึงคาดว่าท้าวเวสสุวัณฑ์รุ่นนี้น่าจะสร้างในช่วงเวลาใกล้เคียงกันหรือหลังจากนั้นไม่มากซึ่งนับว่ามีอายุเก่ากว่าท้าวเวสสุวัณฑ์ของสำนักวัดสุทัศน์ฯพอสมควร
แม่พิมพ์จะแยกออกเป็น 2
พิมพ์คือพิมพ์หน้าใหญ่กับพิมพ์หน้าเล็ก มิติโดยรอบองค์พระจะมีขนาดเท่ากันต่างกันตรงช่วงเศียรและพระพักต์ที่มีขนาดแตกต่างกัน ส่วนรอยอุดผงที่ใต้ฐานจะพบเห็นสองลักษณะคือแบบที่อุดผงไว้ล้วนๆกับแบบที่อุดผงแล้วอุดด้วยเทียนชัยอีกชั้นนึง ส่วนด้านหลังส่วนใหญ่จะพบเป็นรอยปาดเหมือนกาบหมาก แต่บางองค์จะมีการแต่งกระดาษทรายทั้งด้านหลังและด้านข้าง
ชุมชนคนเล่นพระ

...
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน) หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า "ท้าวกุเวร" ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก "ท้าวไพสพ" เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย โดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวาร ว่ากันว่าอาณาเขตที่ ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองนั้นใหญ่มหาศาลมาก และ ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย "พระอินทร์" (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , "พระยม" (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ "พระวรุณ" (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก และเพราะ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูร ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก
คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตรว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกามาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน
ท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสวัณนั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ยืนถือกระบองยาวหรือคทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) กันซะส่วนใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ยอีกด้วย กล่าวกันว่าผู้มีอาชีพสัปเหร่อ หรือมีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ มักพกพารูปท้าวท้าวเวสวัณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณร้ายที่จะเข้ามาเบียดเบียน
ในภายหลังภาพลักษณ์ของท้าวกุเวรที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ยเป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสวัณซึ่งมาในรูปของยักษ์เป็นที่เคารพนับถือว่า เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ นอกจากนี้ยังมีกล่าวว่า ท้าวเวสวัณยังมีกายสีเขียว สัณฐานสูง 2 คาวุต ประมาณ 200 เส้น มีอาวุธเป็นกระบอง มีพาหนะ ช้าง ม้า รถ บางทีปราสาท อาภรณ์มงกุฎประดับรูปนาค ดำรงอิสริยศเป็นเจ้าแห่งยักษ์ มีบริวารแสนโกฏิ ถือโล่แก้วประพาฬ หอกทอง
ท้าวเวสสุวรรณ
ในประเทศไทยมีคติการบูชาท้าวเวสวัณอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเรียกเทพเจ้าองค์นี้ว่า พระไพศรพณ์ ตามนามในภาษาสันสกฤต ไวศฺรวณ มือขวาถือตะบอง มือซ้ายยกเสมอหน้าอกแสดงการห้ามปรามมิให้ (เทวดา) ทำผิด เนื่องจากมีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยยุติธรรมในสวรรค์ ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของอัยการมานาน คาดว่าตั้งแต่แรกตั้งกรมอัยการเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้วเนื่องจากยกกระบัตร (ชื่อเรียกอัยการในสมัยโบราณ) หรืออัยการในปัจจุบันก็มีหน้าที่รักษาความยุติธรรมและกฎหมายเช่นเดียวกับหน้าที่ของพระไพศรพณ์ในสวรรค์ แต่ยังตรวจไม่พบหลักฐานว่าได้มีประกาศเป็นทางการให้ใช้รูปพระไพศรพณ์เป็นเครื่องหมายราชการของอัยการตั้งแต่เมื่อใด
มีความเชื่อกันว่า ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาดแก้ปีชง เสริมปีชง เทพแห่งปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ป้องกันภูติ ผีวิญญาณต่างๆไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆให้กับคนในครอบครัว ในร้านนั้นๆ เพราะภูติผีปีศาจ ยักษ์ เป็นบริวารท้าวเวสสุวรรณ คนมีลูกเพิ่งคลอด หรือมีเด็กเล็ก มักนิยมบูชาท้าวเวสสุวรรณ ตั้งไว้ตรงที่เด็กนอนหลับ เพราะมีความเชื่อว่าภูติผีปีศาจจะไม่กล้ามารบกวนเด็ก เพราะท้าวเวสสุวรรณ


ขอบคุณ เก่งเฮง