• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

ไอ้...เป้

เริ่มโดย บอย ท่าพระจันทโครพ, มิ.ย 09, 2023, 08:58 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

บอย ท่าพระจันทโครพ

สวัสดีครับผมกลับมาลงเล่นแล้วนะแล้วเรื่องนี้ผมเคยเล่าไว้ในรายการพุธพาหลอนถ้าหลายคนจำกันได้แวะมาทักทาย comment กันได้นะครับแล้วมีให้ฟังแบบในรูปแบบ YouTube ด้วยเดี๋ยวผมจะทิ้งลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนะครับ

เรื่องผี ไอ้เป้... YouTube :

https://-youtu.be/LnjYTSh5GFk

เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นเรื่องสมัยที่ผมยังเด็กมาก ผมมีเพื่อนสนิท ชื่อ " ไอ้เป้ " บ้านของเป้กับผมคนละซอยแต่เนื่องจากเราเรียนโรงเรียนเดียวกัน เราจึงไปมาหาสู่กันบ่อยๆ  พวกเราสนิทกันขนาดเอาเท้าลูบหัวกันได้  ไอ้เป้มันอาศัยอยู่กับน้องชายฝาแฝดมันชื่อ " ป๋อง " และยายของมัน พ่อแม่ไอ้เป้ทำงานอยู่เมืองนอก  ส่วนน้องชายของไอ้เป้ เป็นเด็กไม่ค่อยมีความมั่นใจเวลาพูดเลยติดอ่างและเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว และไม่ได้ไปเรียนเนื่องจากอาการป่วย พ่อและแม่ของมันจึงจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน  ไอ้ป๋องไม่ค่อยออกมาเล่นเท่าไหร่ และต้องบอกเลยมันทั้งคู่เหมือนกันมากผมแทบแยกไม่ออก 

จนเวลาผ่านไป ผมกับไอ้เป้ก็เข้ามหาลัยและเมื่อถึงวัยนี่คงไม่พ้นเรื่องความรัก ผมเกิดไปสะดุดตากับ " น้องเก๋ "  เด็กเข้าใหม่เหมือนกันและดูเหมือนจะไม่ใช่ผมคนเดียวที่ชอบเพราะไอ้เป้ มันก็ชอบน้องเก๋เหมือนกัน พวกผม2คนเลยแข่งกะนจีบน้องเก๋ ไอ้เป้มันทำเต็มที่มาก วิ่งซื้อข้าวไห้ทุกวัน รู้ว่าน้องเก๋อยากได้อะไรมันก็จะหามาให้ทันที แต่ดูเหมือนน้องเก๋เขาไม่ได้มีใจให้กับไอ้เป้เลย เหมือนจะสนใจผมมากกว่า..

จนกระทั่งวันหนึ่งกล่องข้าวผมที่เตรียมมาก็หาย และคิดว่าต้องมีคนโขมยไปแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดแค้นอะไร พอน้องเก๋รู้เรื่องก็ชวนผมไปกินกับเธอ แต่ผมก็ปฏิเสธเพราะหวังว่าจะไปซื้อที่โรงอาหารเอาแต่น้องเก๋ก็ไม่ยอมบอกผมว่าเสียดายเงิน ผมจึงต้องตามใจเธอ และระหว่างที่เรากำลังนั่งกินไอ้เป้ก็เดินเข้ามาหาพวกผมแล้วพูดว่า

" ไอ้เพื่อนเลว!! มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง "

ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ถูก แล้วมันก็พูดต่อ

" เราไม่ดีตรงไหนเก๋ เราทุ่มทุกอย่างเธอไม่เห็นค่าเราเลยหรอ "

เก๋ได้ยินแบบนั้นจึงพูดบ้าง

" พอเถอะเป้ เราไม่ได้ชอบเป้เลิกพยายามเถอะ เราขอบใจที่พยายามเพื่อเราแต่เราชอบเป้ไม่ได้จริงๆ  "

ไอ้เป้ได้ยินแปปนั้นก็ถึงกับน้ำตาไหล เอามือชี้มาทางผมและพูดออกมา

" ไอ้สัส! มึงไม่ใช่เพื่อนกู!!!! "

พูดจบมันก็วิ่งออกไป ผมพยายามจะวิ่งตามแต่เก๋ก็ดึงผมไว้  ผมจึงนั่งลงและคิดว่าหลังเลิกเรียนจะไปขอโทษมัน....

พอถึงเวลาเลิกเรียนผมก็หาไอ้เป้ไม่เจอเลยนึกว่ามันคงจะกลับไปก่อนแล้ว ผมจึงรีบมาอาบน้ำที่บ้านรีบแต่งตัวและไปขอโทษไอ้เป้ที่บ้าน  อย่างที่บอกครับบ้านผมกับไอ้เป้ไม่ไกลกันมากอยู่คนละซอย พอผมแต่งตัวเสร็จผมก็รีบเดี๋ยวมันออกไปแต่ระหว่างที่เดินก็เห็นรถมูลนิธิกู้ภัยวิ่งผ่านผมไปหลายคัน ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก แต่เมื่อผมมาถึงหน้าบ้านไอ้เป้ก็ถึงกลับตกใจเพราะรถกู้ภัยที่ขับผ่านผมมามาจอดหน้าบ้านไอ้เป้....

ผมเห็นก็ตกใจรีบวิ่งเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นยายไอ้เป้นั่งร้องไห้แทบขาดใจ ผมจึงถามคนที่มาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่อยู่ตรงนั้นบอกว่า

" ก็ หลานยายเขาอะสิ ผูกคอตาย นี่เราไม่รู้เรื่องหรอเห็นเล่นด้วยกันบ่อยๆ "

ผมถึงกลับตกใจ รีบวิ่งฝาวงเจ้าหน้าที่ไปดูให้แน่ใจ แต่สิ่งที่เห็นร่างที่ไร้วิญญาณของไอ้เป้ที่ห้อยลิ้นจุปาก  และไอ้ป๋องน้องชายร้องไห้กอดศพช่วงขาของไอ้เป้  ผมน้ำตาแตกเรี่ยวแรงไม่มี แทบจะหมดสติกับภาพที่เห็นต่อหน้า เจ้าหน้าที่จึงมาลากผมกับไอ้ป๋องออกไปข้างนอกก่อ...

หลังจากที่พวกผมออกมา เจ้าหน้าที่ก็นำร่างที่ไร้วิญญาณของไอ้เป้ออกมาใส่รถนำไปโรงพยาบาล  ผมที่ค่อยๆเดินออกมาจากบ้านไอ้เป้เดินไปร้องไห้ไป เพราะที่ไอ้เป้ต้องฆ่าตัวตายคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก #เรื่องผมกับเก๋...
 

พอถึงวันงานศพของไอ้เป้ผมก็มาร่วมงานส่วนเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ก็ไม่มีใครรู้ต่างเดาไปต่างๆนาๆ และยายของไอ้เป้ก็ได้มาถามผมว่าตอนที่เป้อยู่โรงเรียนเป้มีเรื่องเครียดอะไรบ้างไหม 

ผมถึงกับสะอึกไปเล็กน้อยแต่ก็ตอบไปว่าไม่มีคผมเลือกที่จะโกหกเพราะผมไม่กล้าที่จะบอกว่าผมนั้นคือสาเหตุที่ทำให้เป้คิดสั้น  ส่วนไอ้ป๋องก็เอาแต่ร้องไห้หน้าศพไอ้เป้ เนื่องจากเป็นพี่น้องที่รักกันมากเวลาไอ้ป๋องโดนล้อว่า ไอ้อ่าง เด็กติดอ่าง ไอ้เป้กับผมก็จะเข้าไปต่อยกับคนที่ล้อไอ้ป๋อง  ไอ้ป๋องมันจึงยกย่องไอ้เป้และผมเป็นดั่งฮีโร่ของมัน  ผมจึงเข้าไปปลอบไอ้ป๋อง พอป๋องเห็นผมก็เข้ามากอดร้องไห้ด้วยความเสียใจ ทำเอาผมยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีก.....

พอหลังจากพิธีศพอะไรเสร็จสิ้นพวกผมก็มาใช้ชีวิตปกติ แต่ผมก็ไปหาเจ้าป๋องอยู่บ่อยๆเพราะผมรู้สึกอยากจะไถ่โทษ ที่เป็นสาเหตุทำไห้เป้ต้องตาย ถึงมันจะทดแทนกันไม่ได้แต่ผมก็อยากจะทำมันอยู่ดี  ส่วนผมกับเก๋เราตัดสินใจคบกันเก๋เป็นแฟนที่ดีมาก ทุกๆพักเที่ยงเวลาเรียนจะนำข้าวมาเพื่อผมเสมอ 

จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเก๋อยากมาที่บ้านของผม ผมจึงไม่ขัดข้องเพราะช่วงนั้นพ่อผมไปทำงานต่างจังหวัดพอดี ( ผมลืมบอกไปครับว่าผมอยู่บ้านกับคุณพ่อ2คน เนื่องจากคุณแม่ผมแยกทางกัน )

พอเก๋เข้ามาในบ้านก็ได้นำต้นไม้พร้อมกระถ่างมาให้ เพราะเห็นว่าผมนั้นชอบต้นไม้ผมนำต้นไม้ไปวางที่สวนหน้าบ้าน  หลังจากนั้นผมก็ชวนเก๋นั่งรอก่อนผมนั้นจะทำกับข้าวให้กิน เก๋เลยแซว

" แหม่ ทำกับข้าวเป็นด้วยหรอแบบนี้ถ้าเราแต่งงานกันแกคงต้องเป็นพ่อบ้านแล้วแหละ เราจะออกไปทำงานหาเงินเอง 555  "

ผมเขินเล็กน้อยจากที่เก๋พูดเรื่องแต่งงาน มันเป็นสัญญาณบอกว่าเก๋นั้นคิดไปไกลขนาดนั้นแล้ว แล้วหลังจากนั้น เก๋ก็ขอให้ผมช่วยสอน เราเลยได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และไม่นานมารขัดขวางจังหวะเลิฟๆของผมก็เกิดขึ้น..

" ปิ๊งงป่องง "

เสียงออด ที่หน้าบ้านผมดังขึ้นผมจึงเดินออกไปดู ปรากฏว่าไอ้ป๋องครับ ไอ้ป๋องมันมาพร้อมกับถ้วยแกงในมือและพูดว่า

" ย ย ย ยาย! ห ห ห ไห้!...."

ผมได้ยินดังนั้นผมจึงรีบพูดแทน

" พอๆๆ ยายให้เอาแกงมาให้กูใช่ไหม  "

ไอ้ป๋องยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า ผมรับถ้วยแกงมาและชวนมันมานั่งเล่นที่บ้านด้วยกันก่อน  พอมันเข้ามาถึงผมก็แนะนำเก๋ให้รู้จัก พอเก๋เห็นก็ถึงกลับตกใจ เพราะหน้าไอ้ป๋องเหมือนไอ้เป้มาก...

เราทั้ง3นั่งกินข้าวด้วยกัน และอาหารที่ช่วยกันทำกับเก๋ก็อร่อยเป็นพิเศษ ผมกินจนหมดทุกอย่างและเอ่ยปากชมว่า

" แบบนี้เราคงเป็นพ่อบ้านไม่ได้แล้วแหละ เพราะแม่บ้านแลดูมำอาหารเก่งกว่าตั้งเยอะ "

พูดจบก็พากันหัวเราะ พวกเราอยู่เล่นพูดคุยกันยันเย็น ก็แยกย้ายกันกลับ...

และหลังจากนั้นก็ผ่านไปประมาณอีก 1 ปีตอนนี้ผมอยู่ปีที่ 3 แล้วส่วนความรักของผมกับเก๋ก็เหมือนกับวัยรุ่นคู่อื่นครับเราทั้งสองก็ได้แยกทางกันตามประสาวัยรุ่น แต่ในใจลึกๆนั้นผมเองก็ยังรักเธออยู่เสมอไม่รู้เพราะอะไรคงจะเป็นรักแรกละมั้งครับเลยลืมยากอย่างที่เขาว่ากัน

พอตกกลางคืนผมก็เข้านอนตามปกติ จนถึงเวลา4-5ทุ่มเห็นจะได้มีเสียงดัง..

"  อื้อ! อื้อ!! อื้อ!!! "

เสียงนั้นมันดังมากใกล้มากผมจึงลุกเปิดไฟดู แต่สิ่งที่ผมเห็นมันทำให้ผมตกใจมาก!! ผมเห็นไอ้เป้ผูกคออยู่กลางห้องผม ทำท่าดิ้นไปมาเหมือนมันจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็พูดไม่ได้และแล้ว ร่างของไอ้เป้ก็หลุดร่วงลงมาบนฟื้น!!! ส่วนหัวกับลำคอมันยังคงติดอยู่กลับเชือกที่แขวน!!  และร่างของมันที่ตกลงมาก็ค่อยๆลุกขึ้น ทำท่าทางอย่างน่าสยดสยอง ผมรีบตั้งสติรีบวิ่งออกจากห้องแล้วหวังที่จะออกจากบ้านเพื่อจะขอความช่วยเหลือ ผมวิ่งออกไปอย่างไม่ดูทิศดูทาง และแล้วผมก็เห็นไฟรถส่องแสงมายังด้านซ้ายของผม...ตูมมมม  ผมถูกรถชนจนกระเด็นและสลบไปในที่สุด

ผมตื่นมาก็รู้ตัวอีกทีว่าอยู่โรงพยาบาล และมีพ่อของผมนั้นนั่งอยู่ พ่อดีใจมากที่เห็นผมฟื้น ผมจึงถามกับพ่อผมว่าเกิดอะไรขึ้นพ่อก็บอกว่า ผมนั้นถูกรถชนและคนชนไม่ใช่ใครที่ไหนคือไอ้ป๋อง ที่รีบส่งยายไปโรงพยาบาลเนื่องจากยายของไอ้ป๋องกินน้ำยาล้างห้องน้ำจะฆ่าตัวตายเพราะแกยังทำใจเรื่องไอ้เป้ไม้ได้ แต่ด้วยความรีบและคิดว่าถนนคงโล่งจึงขับรถด้วยความเร็วจนชนกับผม ตอนนี่ไอ้ป๋องอยู่โรงพักยายของไอ้ป๋องก็พักอยู่โรงพยาบาลเดียวกับผม  ส่วนเรื่องคดีที่ไอ้ป๋องขับรถชนผมคงต้องรอผมหายก่อน จึงจะเริ่มการไต่สวน

ผมได้ยินดังนั้นก็หดหู่ใจมากที่เป็นต้นเหตุทำให้ ไอ้เป้ตาย และ ทำให้ยายของมันต้องมาคิดสั้นอีก ผมร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นไม่ไหวแล้ว ผมจึงเล่าทุกอย่างให้พ่อฟังรวมถึงที่ผมเจอผรไอ้เป้มาหลอก...

พอ พ่อฟังจบสีหน้าพ่อก็เปลี่ยนและขอตัวออกไปข้างนอก ผมคิดว่าพ่อคงโกรธผมแน่แต่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆที่ต้องมาเก็บทุกอย่างเอาไว้ 

ผมอยู่โรงพยาบาลไม่นานผมก็ออกมาพักที่บ้าน โดยก่อนจะกลับบ้านผมบอกให้พ่อพาผมไปเยี่ยมไอ้ป๋องกับยายมันหน่อย พ่อผมก็ไม่ได้ขัดอะไรแล้วพาผมไปเยี่ยมไอ้ป๋องกับยายของมันเพราะไอ้ป๋องมันเห็นหน้าผม มันรีบวิ่งเข้ามากอดขาผมรีบกราบเท้าผม

" พ พ พี่ ผ ผ ผม ข ขอโทษ!! "

มันพูดไปกราบไปผมก็รีบดึงมันขึ้นมาและบอกให้มันหยุดทำแบบนี้  ผมพยุงมันลุกขึ้นมานั่งข้างๆและกอดมันเอาไว้แล้วบอกไปว่า

" เอ็งไม่ผิดหรอกผิดที่พี่เอง เข้าใจเพราะเกิดเรื่องแบบนี้กับเองใครมันก็ต้องรีบทั้งนั้นแหละแล้วตอนนี้พี่ก็ไม่เป็นอะไรมากแล้วส่วนเรื่องคดีเดี๋ยวยังไงพี่จะช่วยอีกแรงนึงนะไม่ต้องกลัว "

ไอ้ป๋องก็ร้องไห้กอดผม  ดูถ้ามันคงจะกลัวว่าผมจะโกรธแล้วเอามันเข้าไปในคุก แล้วส่วนอาการของยายมันนั้นท่านพ้นขีดอันตรายแล้วแต่กับยังไม่ฟื้น เราอยู่คุยด้วยกันพักใหญ่ก่อนที่จะขอตัวกลับบ้าน

พอกลับมาถึงบ้านพ่อนั้นก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมจึงจ้างพี่เลี้ยงมาคอยดูแลเพราะผมนั้นยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ แต่จนมาอยู่วันหนึ่งรุ่งเช้าในตอนที่ผมกำลังจะใส่บาตรนั้นหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านก็พูดว่า

" กรรมมันผูกกันแล้วมันแก้อะไรไม่ได้โยมต้องอดทนนะเขาอาฆาตโยมมาก "

พูดจบท่านก็เดินไปผมถึงกับคิดหนักในคำพูดของท่าน จนกระทั่งเย็นวันนั้นพี่เลี้ยงขอลา1วัน เนื่องจากต้องไปทำธุระด่วน ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะผมก็เริ่มที่จะหายดีมากแล้วในระดับหนึ่ง

พอตกกลางคืนผมก็นอนเปิดทีวีดูแต่ก็มีเสียง

" อื้อ! อื้อ!! อื้อ!!! "

เสียงเดิมที่ผมคุ้นหูเป็นอย่างดี ผมค่อยๆหันไปมองผมก็พบกับไอ้เป้! และทันใดนั้นผีไอ้เป้ ก็กระโดดขึ้นคร่อมผมแล้วเอามือบีบมาที่คอผม  แรงบีบของมันมหาศาลมาก ระหว่างที่มันบีบคอผมมันก็ยังร้อง อื้อๆๆ ผมจึงสังเกตไปที่ใบหน้าของมันผมเห็นใบหน้าของไอ้เป้ซีดขาวเหมือนไม่มีเลือดไปเลี้ยงส่วนปากนั้นเหมือนโดนเย็บติดเข้ากัน เหลือวินาทีที่ผมกำลังจะขาดใจก็มีเสียงประตูเปิดดังปั้ง!! เป็นพ่อผมกับลุงแก่ๆคนหนึ่ง ลุงคนนั้นเอาอะไรสักอย่างหนึ่งวิ่งมาแปะเข้าที่ผีไอ้เป้ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างมันจะหายไป 

พ่อรีบมาพยุงผมลุกและรีบพาผมออกจากบ้านทันที คืนนั้นเราพักกันที่โรงแรมครับ พ่อจึงเล่าให้ผมฟังว่า

" ตอนที่ลูกอยู่โรงพยาบาล พ่อก็เจออะไรแปลกๆเหมือนกัน จนพ่อพาอาจารย์ปู่มาก็เจอลูกในสภาพนั้นนี่แหละ คืนนี้พักผ่อนเถอะพรุ่งนี้ค่อยว่ากับอีกที "

พอถึงรุ่งเช้าผมกับพ่อก็พาอาจารย์ปู่มาดูที่บ้าน  พอมาถึงเดินไปรอบๆบ้าน ท่านก็พูดเลย

" ย้ายบ้านเถอะ เขาอาฆาตพวกเอ็ง2พ่อลูกจริงๆ เขาเอาถึงตายเลย "

พออาจารย์ท่านพูดจบสีหน้าของพ่อของผมก็เปลี่ยนไปเห็นได้ชัด อาจารย์ปู่เดินไปที่หน้าบ้านแถวสวน ท่านก็ไปขุดต้นไม้ต้นหนึ่งและหยิบของที่อยู่ในกระถ่างออกมา  ปรากฎว่ามันคือ #บาตรแตก ครับ และสิ่งที่ทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกก็คือต้นไม้ต้นนั้นคือต้นไม้ที่เก๋ให้ผมสมัยที่ยังคบกันอยู่....

  อาจารย์ปู่บอกว่า

" แก้ไม่ได้จริงๆถึงจะเอาบาตรออกไปแล้วเพราะฟังรากฝังรอยมานานย้ายเถอะ "

ผมกับพ่อได้ยินแบบนั้นความรู้สึกหนักใจมากเพราะเรื่องรถย้ายบ้านที่มันคือเรื่องใหญ่เลยพวกเราคิดไตร่ตรองกันอยู่สักพัก อาจารย์ปู่ก็พูดกับผมว่า

" ไอ้หนุ่ม ส่วนเรื่องของเอ็ง ก่อนจะเข้าบ้านใหม่ไปบวชก่อนก็ดีนะเพราะเขาทำของใส่เองมานาน  ธรรมมะจะได้ช่วยลบล้างได้บ้าง "

ผมได้ยินดังนั้นก็งงว่าใครทำของอะไรใส่ผม แต่จู่ๆก็มีเสียงมือถือดังขึ้น ผมจึงกดรับสาย

" พ พ พ พี่ ม ม มา ข ขึ้น ศ ศาลได้ ว ว ไหมครับ!  "

เป็นเจ้าป๋องถามผมเรื่องขึ้นศาลเรื่องคดีที่ว่ามันขับรถชนผม บวกกับหลายอย่าง ผมจึงบอกโอเครแล้วทำวันเวลา ส่วนเรื่องย้ายบ้านคุณพ่อก็ตัดสินใจที่จะย้ายแต่ขอให้เรื่องราวคดีป๋องอะไรจบลงก่อน

พอถึงวันขึ้นศาลผมก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร แล้วทำให้การของทนายเจ้าป๋องก็ถือว่าเก่งมากช่วยทุกทางจนเจ้าป๋องนั้นรอดพ้นคดี  เพราะหลังพิพากษาแล้วผมก็เห็นทนายของไอ้ป๋องคุยกับพ่อของผม  ผมเลยเดินไปแสดงความยินดีกับไอ้ป๋อง เจ้าป๋องเลยพูด

" ขอบคุณมากไอ้เพื่อนรัก "

ผมรู้สึกเอะใจ เห้ย! ว่าทำไมมันถึงไม่ติดอ่าง ไอ้ป๋องเริ่มหัวเราะ

" 555555555 พวกมึงนี่มันโง่ทั้งพ่อทั้งลูกจริงๆ "

และจู่ๆก็มีเสียงเรียก

" เป้ นั้นเป้หรอลูก "

เป็นเสียงพ่อของผม ผมเริ่มสับสนว่านี่มันอะไรกันแน่ จะเป็นไอ้เป้ได้ยังไงอะไรกัน และมันก็ตอบกลับพ่อของผม

" พ่อจำลูกเมียน้อยคนนี้ได้ด้วยหรอ นึกว่าในสมองเสื่อมไปแล้ว  พวกมึงจำเอาไว้ดูจะจองเวรพวกมึงทุกชาติไป!!  "

พูดจบมันก็เดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั่นก็คือเก๋...

ผมสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้มันอะไรกันแน่ ไอ้ป๋องคือไอ้เป๋ แล้วใครตายอะไรยังไง และทำไมพ่อถึงเรียกไอ้ป๋องว่าลูก  ผมรีบหันไปถามพ่อแต่พ่อของผมนั้นก็ปล่อยโฮร้องไห้ไม่หยุด ผมจึงค่อยๆประคองพ่อมานั่งพักก่อน พอหลังจากที่พ่อได้สติไปแล้วท่านก็เริ่มเล่าเรื่องเล่าให้ผมฟัง   

สมัยตอนที่พ่อยังหนุ่มพ่อเคยแอบนอกใจแม่ครั้งหนึ่งแต่พลาดไปทำผู้หญิงคนนั้นตั้งท้อง แล้วก็ให้กำเนิดเด็กออกมาก็คือ #เป้กับป๋อง แล้วที่พ่อต้องทำงานออกนอกจังหวัดบ่อยๆจริงๆแล้วมันเป็นแค่เรื่องโกหกจริงๆพ่อแอบไปหาเขาเพราะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ  จนกระทั่งแม่นั้นจับได้แม่จึงเลิกกับพ่อ พ่อก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะต้องรับผิดชอบ ส่วนแม่ของเป้กับป๋องนั้นก็ได้มีผู้ชายคนใหม่และย้ายไปอยู่ที่เมืองนอกจึงย้ายมาอยู่แถวๆบ้านของเราเพื่อให้ช่วยดูแล

พูดจบพ่อก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีทำอะไรไม่ถูกเลยและพ่อก็ลุกขึ้นชวนผมไปที่หลุมศพของเจ้าเป้ไปดูให้แน่ใจว่าศพนั้นมันเป็นศพใครกันแน่  พอไปถึงวัดก็จ้างสัปเหร่อให้ขุดขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นศพของป๋อง น้องชายฝาแฝดไม่ใช่เจ้าเป้เพราะเนื่องจากเจ้าป๋องนั้นมีปานตรงฝาเท้า ซึ่งเรื่องนี้ก็มีแค่พ่อผมที่รู้ แล้วสิ่งที่น่าแปลกใจคือปากของเจ้าป๋องมีตะปูเย็บติดกันอยู่.......( มันรู้ภายหลังตะปูนั้นคือตะปูตอกโลงผี เหมือนจะเป็นวิธีสะกดวิญญาณไม่ให้พูดอะไรสักอย่าง )

แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดก็ผ่านมาอีก 16 ปี ตอนนี้ผมก็ได้มาอยู่บ้านหลังใหม่ แล้ววันนั้นพ่อก็ใช้ผมออกไปทำธุระข้างนอกผมจึงได้บังเอิญเจอกับเก๋ผมก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปคว้าตัวเธอเอาไว้และถามเธอว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นตอนแรกเก๋ก็ไม่พูดอะไรพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ผมปิดปากเธอและรีบจับเธอยัดขึ้นรถพอเธอกลับมาที่บ้านและให้พ่อช่วยเกลี้ยกล่อมเธอให้เธอนั้นพูดความจริงจนเธอใจอ่อนจึงยอมพูด

ทุกอย่างเป็นแผนของเป้มาตลอด  จริงๆแล้วเก๋รักกับเป้มานานแล้วไม่เคยรักผมเลย และเป้ก็ให้เก๋ทำเสน่ห์ใส่ข้าวกล่องให้ผมนั้นกินทุกวัน  ส่วนเรื่องศพของเป้ คือเป้วางแผนเอาไว้อยู่แล้ว ด้วยความที่ป๋องเป็นเด็กไม่ค่อยจะเติมเต็ม เป้เลยให้ป๋องใส่ชุดนักเรียนตัวเอง และขึ้นไปบนเก้าอี้เอาหัวลอดผ่านเชือก แล้วเป้นั้นก็ถีบเก้าอี้จึงทำให้เชือกมันกระตุกรัดเข้าไปที่คอเจ้าป๋องจนเสียชีวิต และหลังจากนั้นเป้ก็ไปหาผู้เล่นอวิชชาให้ทำของใส่จึงมอบบาดแตกแล้วแอบยัดเข้าไปในกระถ่างต้นไม้หวังให้ครอบครัวพังพินาภ ส่วนคืนที่ขับรถชนมันเป็นความตั้งใจที่รู้อยู่แล้ว และส่วนเรื่องยายที่เสียใจกินน้ำยาล้างห้องน้ำนั้นท่านไม่ได้ตั้งใจกินแต่เป้เอาน้ำยาล้างห้องน้ำจับกรอกปากเพื่อให้มีน้ำหนักในคดีขึ้น  ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความเจ็บใจที่พ่อนั้นไม่เคยมาดูแลอะไรเขาเลยและเกลียดผมเป็นอย่างมาก  ส่วนเป้ตอนนี้เก๋ก็ไม่ยอมบอกว่าเขาเป็นอย่างไร

ส่วนเรื่องนี้มันทำให้ผมไม่กล้าที่จะมีเพื่อนและไม่กล้าที่จะมีความรักอีกเลยเพราะคำว่าหักหลังมันน่ากลัวครับมันไม่ได้มาจากคนที่เป็นศัตรูของเรามันมาจากคนข้างๆตัวเราต่างหากคนที่เราไว้ใจต่างหาก  เรื่องเราทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ครับ

You cannot view this attachment.