• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

รูปหล่อหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เริ่มโดย ฟลุ๊กพระเครื่อง, ก.พ 28, 2023, 09:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ฟลุ๊กพระเครื่อง

รูปหล่อหลวงปู่ทิม



รูปหล่อหลวงปู่ทิม แม้แต่รูปหล่อรุ่นใหม่ ๆ ก็ยังศักดิ์สิทธิ์
ในบรรดารูปหล่อ รูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ รูปหล่อของหลวงปู่ทิม ก็นับว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร รูปหล่อเนื้อโลหะที่ทันหลวงปู่ทิมปลุกเสกมีอยู่เพียง 3 รุ่นเท่านั้น แต่ที่เป็นรูปหล่อรุ่นแรก ๆ ของหลวงปู่ทิมจริง ๆ นั้นเป็นรูปหล่อปูนปั้น สร้างขึ้น 2 พิมพ์คือ
1.พิมพ์เล็ก ขนาดหนาตัก ประมาณ 5 นิ้ว
2.พิมพ์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก ประมาณ 9 นิ้ว
นายสาย แก้วสว่าง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดและเคยบวชเป็นพระภิษณุจำพรรษารับใช้หลวงปู่ทิมอยู่หลายปี เป็นผู้ที่ปั้นพิมพ์เป็นรูปเหมือนหลวงปู่ทิม หลวงปู่ท่านเห็นแล้วก็หัวเราะด้วย ความขัน เพราะผู้ที่ปั้นเน้นปากของหลวงปู่ทิมจนดูเป็นรูปประหลาดไป สัดส่วนหรือความเหมือนของหลวงปู่ทิมนั้นตรงที่ปากของท่านนับได้ว่าปั้นยากที่สุด แม้หลวงปู่จะอายุย่างเข้า 95 ปี เนื้อหนังเหี่ยวย่นโดยฉพาะที่ใบหน้าแก้มนั้นมีความเหี่ยวและตอบตามธรรมชาติของมนุษย์ในวัยสูงอายุ ส่วนฟันทั้ง 32 ซีกของท่านยังอยู่ครบบริบูรณ์ ไม่หักไม่พร่องแม้แต่ซีกเดียว เลยทำให้ปากของท่านมีลักษณะไม่เหมือนคนชราโดยทั่วไป นายสายเลยหามุมปั้นยาก เลยปั้นปากรูปคนปากจู๋ออกไป เมื่อหลวงปู่ทิมท่านได้เห็นรูปปั้นของท่านแล้วจึงได้หัวเราะด้วยความขบขัน แต่ถึงอย่างไรท่านก็ยังบอกว่า "เอาได้" เป็นภาษาระยองที่แปลว่า ใช้ได้ หลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นรูปสมมุติ แม้จะไม่เหมือนผิดเพี้ยนเป็นรูปอื่นแต่คนปั้นต้องการให้เป็นตัวท่านก็นับว่าใช้ได้
วัตถุอันเป็นมงคลที่ท่านบรรจุไว้ก็มี สีผึ้งที่ท่านทำสำเร็จแล้ว และผงพุทธคุณตามตำรับของท่านผสมด้วยของสำคัญที่ท่านขาดไม่ได้คือก็คือ น้ำมันลูกประคำและใบใพธิ์ตะวันออก



หลวงปู่ท่านจะปลุกเสกรูปหล่อของท่าน 2-3 คืน แล้วท่านก็ยกออกมาวางไว้ให้ญาติโยมที่ต้องการหรือว่าหากหลวงปู่ท่านไม่ยกออกมาญาติโยมชาวบ้านที่หล่อมาให้ก็จะถามท่านว่าเสร็จหรือยัง
ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ท่านก็จะลุกเข้าไปหยิบออกมาให้และเชื่อได้เลยว่วันที่ท่านหยิบออกมาให้นั้นต้องเป็นวันฤกษ์ดี มีฤกษ์มียามที่เหมาะสม
รูปเหมือนหลวงปู่ทิมเนื้อปูนนั้นครั้งที่สร้างมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นครั้งที่มีงานผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดละหารไร่เมื่อปลายปี 2516 ทางวัดไม่มีทุนที่จะไปจ้างโรงหล่อ เพื่อหล่อเป็นรูปเหมือนเนื้อโลหะ เพราะค่าใช้จ่ายสูงจึงได้สร้างแต่รูปหล่อเนื้อปูน
เมื่อหลวงปู่ทิมมรณภาพวันที่ 16 ตุลาคม 2518 แล้วหลังจากนำร่างของท่านลงไปในหีบบรรจุศพเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันนั้น ผมได้นึกถึงผงน้ำมันลูกประคำหรือน้ำมันพระเจ้าตากที่เหลืออยู่ในกล่องใบชาที่หลวงปู่ทิมวางไว้หลังพระประธานที่หน้ากุฏิท่าน ผงจึงได้ไปเอามาและได้แบ่งให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเอาไปบ้างที่เหลือผมได้เก็บเอาไว้และได้หาซื้อน้ำอบไทย มาหลายขวดเทใส่ลงไปในกล่องใบชา เพื่อแยกเอาผงออกจากกระดาษหนังสือพิมพ์และต่อมาได้ทิ้งให้ผงนั้นนอนก้นแยกเอาผงออกโดยรินน้ำทิ้ง ภายหลังจากที่ผมได้สร้างรูปหล่อจะเป็นรุ่นแรกหลังจากที่หลวงปู่ทิมมรณภาพแล้วคือ รุ่น 108 ปี ก็ดี หรือ รุ่นฐานปูปลา ของวัดหนองกรับก็ดี รุ่นมหาโสฬส ก็ดี และแม้แต่ครั้งสุดท้าย รูปหล่อยืนที่ปลุกเสกพร้อมหุ่นขี้ผึ้งและรูปเหมือนยืน สร้างเมื่อปี 2537 ผมก็นำผงนี้รวมกับผงพุทธคุณอื่น ๆ บรรจุเข้าไปในองค์พระรูปหล่อหลวงปู่ทิมทุกครั้ง แม้แต่จะสร้างมากถึงพิมพ์ละตั้งพันกว่าองค์ เช่น รุ่นมหาโสฬส ก็ออกจำหน่ายบูชาจนหมดทุกครั้งผู้ที่นำไปบูชาแล้วต่างก็ยอมรับว่าศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้รุ่นเก่า ๆ ที่เช่าบูชากันองค์ละหลายหมื่น อาจารย์เจริญ โชติชัยชาญ วิทยาลัยเทคนิดมีนบุรี อาจารย์สอนวิชาวิศวะ ก็ยังเขียนจดหมายเล่าว่า เมื่อถึงที่คราวคับขันสามารถห้ามลมห้ามฝนได้ไม้แพ้รุ่นเก่า ๆ เลย
ในการสร้างรูปแหมือนหลวงปู่ทิมหรือพระบูชาของท่านในแต่ละครั้ง ผมจะมีผงต่างหากที่ใช้สำหรับบรรจุลงไปในรูปเหมือนหลวงปู่ทิมโดยเฉพาะ จะไม่ปนกับผงอื่นแยกใส่ไว้ในโถหินอ่อนเมื่อครั้งจะสร้างพระผงเจริญพรสัตตมาส, พระบูชารุ่นใหม่ หรือ พระผงจันทร์ลอย ที่แจกผู้มาร่วมงานในพิธีไหว้ครูเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ก็จะนำผงในโถหินอ่อนนี้มาผสมกับผงมงคลอื่น ๆ ประสบการณ์ครั้งที่สร้างพระบูชารุ่นเรือนเศรษฐี 1 และ 2 นั้น ก็ให้โชคให้ลาภแก่คนเช่าไปออกตรง ๆ กับเบอร์องค์พระเลยไม่ต้องกลับ ครั้งที่จะสร้างในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 นี้ ผมเชื่อว่าหลวงปู่ทิมท่านต้องลงมาทำให้ผมอย่างแน่นอนตามที่ท่านได้รับปากกับผมไว้



พระปิดตากลับดวง
เมื่อกลางปี พ.ศ. 2518 อธิบดีกรมการศาสนาในสมัยนั้น ได้ยินกิติศักดิ์ของหลวงปู่ทิม ว่าเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบและเคร่งครัด อีกทั้งมีอิทธิฤทธิ์มากตามคำเล่าลือกันจึงได้มากราบหลวงปู่ทิม และให้ท่านนวดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์อยู่ 2-3 ครั้ง ก็บรรลุผลสำเร็จตามความประสงค์ได้ถวายปัจจัยช่วยท่านสร้างวัดไว้ 40,000 บาท อธิบดีกรมการศาสนาได้ทราบจาก เจ้าคณะอำเภอบ้านค่ายว่า หลวงปู่ทิมท่านเก่งทางการสร้างพระปิดตาไม้แกะ จึงปรารถว่าอยากได้ไว้ใช้บ้าง ท่านจึงไปหาได้ไม้รักตายพรายมาท่อนหนึ่ง จึงได้จ้างช่างที่ระยองแกะเป็นรูปพระปิดตาทั้งหมด 62 องค์ถวายให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกหลวงปู่ทิมไปทำพระปิดตาทั้งหมดมาให้นายเพียรวิทย์ จารุสถิติ ศิษย์ใกล้ชิดลงเหล็กจารที่ด้านหลังทุกองค์แล้วขอให้นายเพียรวิทยจ์ รับเป็นสัจจะไว้ว่าจะไม่ลงเหล็กจารยันต์ห้าด้านหลังพระปิดตาไม้รักแกะให้ใครอีก แล้วปลุกเสกอยู่ประมาณเดือนหนึ่งจึงได้มอบให้ท่านอธิบดี ไปจำนวนหนึ่ง พระครูสถิตธรรมโกศล วัดหวายกรอง และบรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิดอีกคนละองค์สององค์
เมื่อหลวงปู่ทิมสิ้นบุญแล้ว มีผู้เสาะแสวงหาพระปิดตาพิมพ์นี้กันมาก เพราะเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณทางเมตตามหานิยมสูงมาก ผู้ต้องการจึงแสวงหาและซื้อขายกันในราคาองค์ละเกือบ 3,000 บาท (ในสมัยนั้น) ผุ้แกะพระปิดตาพิมพ์นี้จึงได้แกะขึ้นมาอีกหลายองค์ และนำมาขอให้นายเพียรวิทย์ ช่วยลงเหล็กจารให้ แต่นายเพียรวิทย์ ปฏิเสรธว่ารับปากกับหลวงปู่ทิมไว้แล้วว่าจะไม่ลงเหล็กจารไม้รักพิมพ์พระปิดตานี้อีก ต่อมาอีกไม่กี่วัน ผู้แกะพระปิดตาพิมพ์นี้ได้ถูกรถชนตายตรงหน้าวัดเนินพระปรอท กิ่งอำเภอบ้างฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่โจดจันกันมากในจังหวัดระยอง
พระปิดตากลับดวงที่จัดสร้างครั้งนี้ ได้ทำการแกะไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2559 ครั้งที่ลูกศิษย์ของอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ คุณเจี๊ยบโภคะนาคา ได้เดินทางไปภาคเหนือเพื่อทำบุญตามวัดและจะไปนำยางรักจากในป่า ซึ่งต้นรักต้นนี้ ชาวบ้านแถวนั้นและระแวงใกล้เคียงมักจะนำยางไปสำหรับใช้ในการปิดทองคำเปลว แต่ปรากฏว่าเมื่อไปครั้งนี้ต้นรักต้นนี้โดนฟ้าผ่า ยืนตายคุณเจี๊ยบจึงได้นำไม้รักมาให้อาจารย์ชินพร เพราะรู้ว่าเป็นของอาถรรพ์หายาก จากที่เคยทราบประวัติว่าหลวงปู่ทิมเคยทำพระปิดตาจากไม้รักและเป็นที่แสวงหาแก่ผู้ศรัทธา อาจารย์ชินพร จึงให้นำไปแกะเป็นพระปิดตาและเจาะรูอุดผง โดยแกะได้จำนวน 300 องค์ มีโค้ดและหมายเลขกำกับทุกองค์กันปลอม โดยพระปิดตาไม้รัก (กลับดวง) ได้ผ่านพิธีพุทธภิเษกน้อยใหญ่มาแล้วนับสิบพิธี ไม่ว่าจะเป็นท่านกงเตื่อง หลวงพ่อนัส วัดอ่าวใหญ่ หลวงปู่ชม หลวงปู่ตี๋ วัดหูช้าง สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตร ฯลฯ และพิธีที่อาจารย์ชินพรได้รับเชิญไปเปิดฟ้าเปิดดินก็จะนำใส่ยามไปเข้าร่วมด้วย และจะเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งที่พระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 อีกครั้ง

พระปิดตาอุตตโม (องค์จ้อย)
เมื่อผมสร้างพระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อนวะโลหะของหลวงปู่ทิมออกมาต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2518 หลังจากนั้นก็มีคณะต่าง ๆ ทยอยสร้างกันออกมาอีกหลายวัด และรายหลายก็พยามเหยียบพระปิดตายันต์ยุ่งของหลวงปู่ทิม เพื่อยกของที่ตนเองสร้าง บางรายถึงกับลงเรื่องราวว่า พระปิดตายันต์ยุ่งของเขานั้นปลุกเสกโดยจิตอันบริสุทธิ์ไม่ใช้คาถาอาคมอันเป็นเดรฉานวิชาเหมือนของพระเกจิอาจารย์บางองค์ที่เล่นไสยศาสตร์ล้วน ๆ ส่วนพระของเขานั้นปลุกเสกโดยพระปฏิบัติธรรมหลาย ๆ องค์ ผมยังจำข้อใหญ่ใจความนี้ได้ดี และเวลาอันยาวนานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เดี่ยวอย่างมั่นใจ ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเดี่ยวนั้น เป็นอมตะจริง ๆ
เมื่อพระปิดตาเนื้อนวะโลหะ จำนวน 2518 องค์ หมดเกลี้ยงจริง ๆ และผลงานออกมาทันตาเห็นคือ หอฉันภาวนาภิรัต หลายรายขอให้ผมสร้างพระปิดตายันต์ยุ่งขึ้นอีกแต่ผมไม่เอาดังก็ขอให้ดังเป็นรุ่น ๆ ไป แต่เมื่อนึกถึงอนาคตที่จะต้องบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุที่ได้สร้างไว้แล้วว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายจึงสร้างพระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อดีบุก หรือเนื้อตะกั่วดำขึ้นมาอีก 5000 องค์ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยในยุดนั้น
พระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อดีบุกนำเอาไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกโดยใส่ในหีบเหล็กบรรจุลูกปืนของทหารอเมริกันหีบเดียวกับที่ใส่พระกริ่งชินบัญชรให้หลวงปู่ทิมปลุกเสก นอกจากพระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อดีบุกแล้วก็ได้เอาเหรียญวัดยายร้าหรือเหรียญวัดสุวรรณรังสรรค์ ซึ่งร้อยลวดเป็นพวงเข้าร่วมปลุกเสกด้วยตั้งแต่ครั้งปลุกเสกพระกริ่งชินบัญชรวันแรก จำนวน 1000 เหรียญโดยไปบูชามาจาก พระอธิการสมานเจ้าอาวาส วัดสุวรรณรังสรรค์ เมื่อวันที่นำหีบใส่พระกริ่งชินบัญชรมาให้หลวงปู่ทิมเสก เหรียญวัดยายร้า จำนวน 1000 เหรียญ จึงเป็นของชนิดเดียวที่หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกให้นานที่สุด นานกว่าพระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อดีบุก เสียอีก
พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อดีบุก นำออกจากกุฏิหลวงปู่ทิม เมื่อวันที่ปิดกุฏิของท่านเพื่อตรวจสอบของในกุฏิหลังจากมรณภาพใหม่ ๆ แล้วนำมาเป็นของสมนาคุณในการทอดกฐิน ณ วัดละหารไร่ ซึ่งผมจองป็นเจ้าภาพได้เงินเข้าวัดหลายแสนบาท โดยออกให้บูชาองค์ละ 50 บาท และพระปิดตาจำนวน 5000 องค์ ก็หมดภายในไม่กี่วัน
ก่อนจะถึงพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาโสฬส เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2533 ไม่นานมีชายหนุ่ม 2 คนมาหาผมที่บ้านซึ่งเป็นสำนักงานมูลนิธิหลวงปุ่ทิม ถามหาพระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อดีบุก จากผมซึ่งผมมีอยู่ในขณะนั้น 6-7 องค์ ให้บูชาองค์ละ 200 บาท ทั้งสองคนก็ขอบูชาไปจนหมดส่วนเนื้อนวะโลหะซึ่งขณะนั้นองค์พันะกว่าบาททั้งสองคนไม่แตะต้องเลยแล้วยังบอกผมว่าเฉพาะพระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อดีบุกของหลวงปู่ทิมมีเท่าไหร่เอามาหมดเลย แล้วทั้งสองเล่าให้ฟังว่าเป็นตำรวจอยู่โคราช ขึ้นมากว้านซื้อพระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อดีบุก ไปหามาหลายที ท่าพระจันทร์ก็ไปหามาแล้วร้านแบล็คแอนด์ไวท์ก็ไปหามาแล้ว ร้านคุณสมจิต เทวารุทต์ ในต้นซอยเสนาก็ไปหาซื้อมาแล้ว รวม ๆ ได้หลายสิบองค์จะเอาไปแบ่งให้เพื่อน ๆ ตำรวจด้วยกันใช้ทั้งสองคนเล่าต่อไปอีกว่า ได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่ทิมในหนังสือ "นะโม" ที่ผมเขียนอยู่ในเวลานั้นว่าท่านเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ พอดีมีพระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อดีบุกอยู่องค์หนึ่ง คนให้บอกเป็นของหลวงปู่ทิม ก็เลยเอาใส่ห่อผ้าขาวยิงด้วยปืนพกประจำตัวปรากฏว่า กระสุนออกห่อผ้ากระเด็นไปไกลพอสมควร ก็เลยคิดว่าหลวงปุ่ทิมไม่แน่จริงเหมือนเรื่องที่เคยอ่าน แต่พอตกลางคืนฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหาถึงเตียงนอนแล้วพูดว่า "ไม่นับถือกันจริง จะยิงจะลองก็ไม่บอกกล่าวกันก่อน" ก็เลยเอาความฝันนี้ไปเล่าให้เพื่อน ๆ ตำรวจด้วยกันฟัง เพื่อน ๆ ก็บอกว่าอย่างนั้นลองใหม่ คราวนี้เอาพระปิดตายันต์ยุ่งห่อในผ้าขาวเหมือนอย่างเดิมแต่ก่อนยิงได้จุดธูปบอกกล่าวถึง 9 ดอกแล้วจึงเอาปืนกระบอกเดิมยิงปรากฏว่า กระสุนลั่นดังพรืด ๆ ลูกตะกั่วไหลเป็นน้ำออกจากปากกระบอกก็ตื่นเต้นและตกใจ ก็เลยต้องมาหาซื้อไปฝากเพื่อน ๆ และในปีที่สร้างพระกริ่งมหาโสฬส ตำรวจโคราชหลายนายได้สั่งจองมาทางไปรษณีย์เป็นเงินไม่น้อยเลย
เมื่อพระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตตโมองค์จ้อยที่จัดสร้างใหม่นี้ ได้ผสมมวลสารของเดิม แต่ด้วยที่องค์เล็กจึงไม่สามารถที่จะอุดผงพุทธคุณต่าง ๆ ได้ นอกจากตอกโค้ด ผมจึงได้น้ำมาแช่น้ำมันพราย น้ำมันสงกรานต์ น้ำมันเสือ เพื่อนำไปใช้จะได้เหมือนของเดิม และปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตตโมองค์จ้อยนี้ ยังได้ผ่านพิธีปลุกเสกมาแล้ว โดยครั้งแรกจะให้หลวงปู่ชม โอภาโส วัดสามัคคี จังหวัดหนองคาย และ หลวงพ่อเพลิน จังหวัดหนองคาย ซึ่งท่านเก่งด้านทำสีผึ้งกาตอมแฮ่ เมตตามหานิยมเสก และมาเข้าพิธีเสกอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 พิธีไหว้ครูประจำปี ของทางมูลนิธิหลวงปู่ทิม โดยครั้งนี้ได้นิมนต์เกจิมาร่วมนั่งปลุกไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ตี๋ วัดหูช้าง สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตร หลวงพี่เปิ้ล วัดเลียบ และจะเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งที่พระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 อีกครั้ง











ขอบคุณข้อมูลและแหล่งที่มา FB : https://www.facebook.com/people/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%81/100064673470120/

amuletb1

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่แบ่งปันกันนะคะ