รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย

(https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2023/04/PRA0804.jpg)

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชธานินทราจารย์ เป็น พระเทพวัชรจริยาจารย์ ไพศาลพิพัฒนกิจ พิพิธภารธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นเทพ สถิต ณ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.2565 ประกาศ ณ วันที่ 14 พ.ย.2565

พระเทพวัชรจริยาจารย์ (สุชาติ ฐานิสสโร) พระเถระที่ชาวเมืองกรุงเก่า เลื่อมใสศรัทธา ด้วยความเป็นสมณะที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน

ปัจจุบัน สิริอายุ 72 ปี พรรษา 52 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

มีนามเดิมว่าสุชาติ พงษ์ภมร เกิดวันที่ 6 ส.ค.2493 ปีขาล ที่บ้านเลขที่ 30 ม.7 ต.สามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บิดามารดา ชื่อ นายชีพและนางอ่อน พงษ์ภมร ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ออกมาช่วยครอบครัวทำนาหาเลี้ยงชีพ

กระทั่งอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2513 ที่วัดโคกโพธิ์ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มีพระครูวิสุทธิคณารักษ์ วัดหนองน้ำส้ม อ.อุทัย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอรรถกิจประยุต วัดโพสาวหาญ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระครูนิเทศโพธิคาถา วัดโคกโพธิ์ อ.อุทัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์
มุ่งมั่นศึกษาด้านพระปริยัติธรรมแผนกธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดประสาท จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2519

พ.ศ.2547 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธาแก่สาธุชน

ลำดับการปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2532 เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประสาท อ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเจ้าคณะตำบลสวนพริก พ.ศ.2539 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา พ.ศ.2544 เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พ.ศ.2552 เป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแพรก

พ.ศ.2566 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระญาณไตรโลก

พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชธานินทราจารย์

ล่าสุด วันที่ 15 พ.ย.2565 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพวัชรจริยาจารย์

ส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณร ภายในวัดและนอกวัด ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม บาลี และสายสามัญ เพื่อให้มีความรู้เป็นกำลังสำคัญต่อวงการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา

ตั้งแต่เปิดสำนักเรียนวัดกษัตราธิราช ปรากฏว่ามีพระภิกษุ-สามเณร สอบนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ได้ 159 รูป สอบบาลีได้ 113 รูป และเมื่อปี พ.ศ.2548 วัดกษัตราธิราช ได้รับมอบหมายจากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) หรือเป็นที่รู้กันว่าเป็นหลักสูตรเตรียมเจ้าอาวาส มีพระสังฆาธิการจากคณะสงฆ์ภาค 2 เข้าศึกษา จบหลักสูตรไปแล้ว 6 รุ่น

ด้านการปกครองภายในวัดและอบรมพระเณรอยู่เป็นประจำอยู่กันแบบพี่น้อง พระที่พรรษาน้อยกว่าต้องเชื่อฟังพระที่มีพรรษามากกว่า พึ่งพาอาศัยกัน พระทุกรูปมีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ต้องทำวัตรเช้าเย็นและทำอุโบสถกรรม (สวดพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน) ช่วยกันดูแลวัดให้สะอาดร่มรื่น

กล่าวได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนสำหรับพระภิกษุ-สามเณรรุ่นหลัง รวมทั้งชาวพระนครศรีอยุธยาให้ดำเนินเจริญรอยตาม

แหล่งที่มาจาก : มงคลข่าวสด

สาธุค่ะหลวงพ่อ