หลวงพ่อสำเนียง ประสูติเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ตรงกับวันศุกร์ ปีมะเส็ง แรม 4 ค่ำ เป็นพระโอรสในพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหม่อมทองนุ่น
เมื่อตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้รับพระบรมราชโองการจากรัชกาลที่ 6 ให้ไปซื้อเรือพระร่วงที่ประเทศอังกฤษ จึงนำหม่อมทองนุ่น ไปฝากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ครั้นท่านประสูติ หลวงปู่ศุข จึงตั้งนามว่า "สำเนียง" แปลว่า "เสียง" เมื่อเสด็จพ่อทรงทราบจึงพระราชทานนามว่า "หม่อมเจ้าสถาพร อาภากร"
ประสูติได้ 7 วัน หม่อมทองนุ่นเสียชีวิต จนมีพระชันษาได้ 6 ปี เสด็จพ่อก็สิ้น พระชนม์ ในวังเริ่มระส่ำระสาย นายเอมพระสหายของเสด็จพ่อนำไปฝากไว้กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพา พระขนิษฐาของเสด็จพ่อ ส่งให้ไปศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก จบมัธยมปีที่ 8 ต่อมาศึกษาโรงเรียนนายร้อย จปร. เข้ารับราชการทหารที่กรมสื่อสารทหารบก ยศร้อยเอกดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองต่างประเทศในหน้าที่แปลข่าวสารต่างประเทศ และได้ร่วมรบในสงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพา
พอกลับจากศึก สงคราม ก็ถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำ ต้องถูกจองจำพร้อมกับจอมพลป.พิบูลสงคราม-หลวงเสรี-หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆ ในข้อหาอาชญากรสงคราม เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัดเบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี
ท่าน ตั้งใจบวชเพียง 15 วัน แต่พอบวชได้ 3 วัน มีเหตุการณ์การเมืองขึ้นมาอีก จึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิง จอมพลป.พิบูลสงคราม ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึก ทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจน กระทั่งตาย
ดังนั้น จึงมุ่งสู่ชนบท ได้เห็นวัดแหลมชะอุย คือ "วัดเวฬุวนาราม" ในปัจจุบัน
ชื่อ เสียงของหลวงพ่อสำเนียงอีกด้าน คือ การรักษาโรคและยังเป็นพระนักพัฒนา ได้พัฒนาวัดเวฬุวนาราม และสร้างโรงเรียนสถาพรวิทยา ให้เด็กในชุมชนได้มีโรงเรียนศึกษา ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้า
(https://www.thaprachan.com/thumb/UC11015044A-0785.jpg) (https://www.thaprachan.com/thumb/UC11015044B-6155.jpg)
ขอบคุณ เอส-บูรพา
สาธุ