• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

กระท่อมร้างกลางป่า ep.1

เริ่มโดย บอย ท่าพระจันทโครพ, ม.ค 13, 2023, 04:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

บอย ท่าพระจันทโครพ

ซาหวาดดดดีค้าบบบ ผมหายไปซะหลายวันเลย พอดีผมมาทำธุระที่ต่างประเทศด้วยแล้วไม่ได้บอกกันทุกคนแล้ววันนี้ผมว่างพอดีก็เลยอยากจะนำเรื่องเรื่องหนึ่งที่ผมเคยลงไว้เมื่อสมัยก่อตั้งเพจนี้แรกๆเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนหลายคนรู้จักเพจนี้ต้องขอบคุณทุกคนมากเลยครับ วันนี้ผมอยากจะนำเรื่องนี้กลับมา remax อีกครั้ง แล้วครั้งหน้าผมจะหาเรื่องใหม่ๆมาลงให้นะครับผมเพื่อให้ทุกท่านได้อ่านไปก่อนเดี๋ยวจะว่าผมหายไปไหนอิอิ และผมบอกเลยตอนจบเรื่องนี้มันพีคมากๆ ถ้าพร้อมแล้วมารับชมพร้อมกันเลยนะครับ let's go~~~ @นิล

ผมกับแฟน และก็เพื่อนกับแฟนเพื่อน
พากันไปเที่ยวป่าแห่งหนึ่ง กะไว้ว่าจะเดินเที่ยวลัดเลาะกันไปตามตีเขา
แล้วก็กลับลงมา กางเต็นท์พักกันสักคืน
หลังจากเราเดินเท้าเข้ามาในป่าได้สักระยะหนึ่ง
ก็ถึงตีนเขา ที่เริ่มมีต้นไม้ใหญ่ หนาตามากขึ้น
พอเข้าไปในป่าได้ไม่ไกลมาก แม้จะยังเป็นช่วงเช้าอยู่
แต่ว่าบรรยากาศก็เริ่มมืดครึ้ม คล้ายๆฝนจะตก
ทำให้พวกเราเริ่มกังวลกัน
ระหว่างทางที่เราเดินทางเข้ามา ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เขาแห่งนี้พอสมควร
แต่ทางที่เราพากันเดินมา รู้สึกเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครเดินเท่าไหร่

บรรยากาศที่ดูคล้ายมีเมฆหมอก เวลาสูดลมหายใจเข้าไปแรงๆ ได้กลิ่นไอฝนจางๆ
พลอยทำให้รู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่า ที่จะเดินทางผจญภัยไปในป่า ดูแมกไม้นานาพันธุ์
สองข้างทางที่เราเดินผ่าน นอกจากมีดอกไม้แล้วยังมีมอสเขียวๆที่จับตามต้นไม้
จนดูเป็นกำมะหยี่ น่าหลงไหล
เราเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันแปลกตาเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
จนลืมเวลาว่านานเท่าไหร่ เพราะอากาศวันนี้ไม่ร้อน จนทำให้เราแทบไม่รู้สึกเหนื่อยกัน

แต่แล้วสิ่งที่เรากังวัลก็เกิดขึ้น สักพักฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา
ผมกับแฟนรีบมองหาที่หลบฝนกัน
เพื่อนก็วิ่งนำหน้าผมไปพร้อมกับแฟนเขา
วิ่งไปได้สักพัก เราก็ไปเจอ กับกระท่อม เล็กๆ หลังหนึ่ง
พอวิ่งเข้าไป ก็ปรากฏว่า มันเป็นกระท่องร้าง ไม่มีใครอยู่
เราต่างพากันวิ่งเข้าไปข้างในกระท่อมนั้นโดยไม่ได้คิดอะไร

เข้าไปข้างในได้  สภาพข้างใน ที่พื้น เป็นพื้นดิน
ด้านข้างมีกองฟืน และเศษไม้เป็นท่อนๆ  มีกระสอบปูอยู่กับพื้น
ตรงกลางมี เศษขี้เถ้าพร้อมกับหินก้อนใหญ่สามก้อนวางเป็นเหมือนขาเตา
สำหรับวางหม้อ

ผนังด้านข้างทั้งสี่ด้าน เป็นผนังที่ทำจากใบไม้แห้ง ใบใหญ่ ๆ
หลังคามุงด้วยจาก มองไปรอบๆ บนหลังคา มีใยแมงมุมน้อยใหญ่ ประปราย
มีหน้าต่างทำด้วยจาก ที่ใช้ไม้ค้ำยันเวลาเปิด

เราต่างพากันจับจองหาที่นั่ง เป็นของตัวเอง
เอาท่อนไม้มารองนั่งบ้าง เอากระสอบมานั่งบ้าง

โชคดีที่เข้ามาทัน เพราะฝนเริ่มตกหนักขึ้น จนเริ่มมีน้ำฝนรั่วลงมาหลายจุด
นั่งอยู่ไม่นาน อยู่ๆก็มีคนวิ่งเข้ามาในกระท่อมอีก สองคน
เป็นชายหญิงวัยกลางคน

พวกเราก็เลยขยับขยับกันให้เขาเข้ามานั่งหลบฝนด้วย

เราไม่ได้ถามไถ่ชื่อหรือแนะนำตัวอะไรกัน แต่ก็คุยกันเปรยๆกันไปตามประสา

ผู้ชายที่เข้ามาเขาก็หันมาพูดกับผมว่า
ดูท่าทางจะตกนานเนาะ ตกแรงเลย

ผมก็ได้แต่ยิ้ม แล้วก็บอกว่า ครับ

ตอนนั้นฝนตกเสียงดัง ก็เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครคุยอะไรกัน

นานพอสมควร ฝนก็เริ่มปรอยๆ

อยู่ๆเพื่อนก็เอาท่อนไม้มาจุดตรงที่มีขี้เถ้า
พอก่อไฟติด
ทุกคนก็เริ่มมานั่งผิงไฟกัน

พอเริ่มนั่งล้อมวงกันได้ ก็เริ่มมีการแนะนำตัวให้รู้จักกัน
ก็เลยทราบว่า ชายหญิงทั้งสอง  เขาเป็นสามีภรรยากัน
ก็มีใจรักด้านมาเที่ยวป่าเหมือนกัน

พอเริ่มคุยกันจนพอรู้จักอัธยาศัยกันแล้ว
พี่ผู้ชายคนนั้น แกก็เลยชวนกินกาแฟกัน
ว่าแล้วแกก็เอาหม้อต้มกาแฟออกมา พร้อมกับ ผงกาแฟและน้ำตาล
ไม่นานเราก็มีกาแฟกินกันคนละแก้ว

เวลาตอนนั้นน่าจะสักช่วงบ่ายๆได้ แต่ว่า ท้องฟ้ามันมืดครึ้ม
บวกกับฝนลงเม็ดปรอยๆ ก็เลยทำให้บรรยากาศมันดูเหมือนมืดๆ

พอคุยกันไปได้พักหนึ่ง ก็ดูเหมือนว่าจะหมดเรื่องจะคุยกัน
จนทุกคนก็ได้แต่นั่งจิบกาแฟ อยู่เงียบๆ

เพื่อนผมมันก็เลยเสนอว่า
เรามาเล่าเรื่องอะไร ที่มันสยองสยองกันไหม

แฟนผมกับแฟนเพื่อนก็ทำหน้า เหมือนกะว่า ยี้ ไม่เอา หรอก ประมาณนั้น

แต่เพื่อนก็บอกว่า  น่าตื่นเต้นดีนะ เข้าบรรยากาศ

แฟนเพื่อนก็เลย เอ็ดเพื่อนไปว่า บ้าหรือในป่าในเขา ใครเขาให้พูดถึงเรื่องแบบนั้น

แต่พี่คนที่มาใหม่ แกก็พูดขึ้นว่า
ได้ซิ ถือว่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
ว่าแต่ว่า ใครจะเริ่มเล่าก่อนหละ

เพื่อนผมก็เลย บอกว่า เชิญพี่ก่อนดีกว่า พี่อาวุโส สุด

พี่คนนั้นก็หัวเราะ
อืม แต่ไม่รู้ว่าเรื่องของผมมันจะสยองหรือเปล่านะ
เป็นเรื่องเล่ามาอีกทีหนึ่ง
แล้วแกก็เริ่มเล่าให้พวกเราฟัง

เรื่องราวมันมีอยู่ว่า
ครั้งหนึ่ง มีกลุ่มนักท่องเที่ยวพากันไปเที่ยวในป่า แห่งหนึ่ง
ระหว่างเดินทางไปตาม ทางเดิน ก็มีฝูงวัว ที่คนเลี้ยงต้อนเดินสวนมาตามทางที่นักท่องเที่ยวเดินผ่าน
แต่อยู่ๆไม่รู้ว่าฝูงวัวนั้นมันตกใจอะไร พากันวิ่งแตกตื่นผ่าเข้ามาในกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้น
จนทุกคนต้องแตกกระเจิง หลบฝูงวัวกันจ้าละหวั่น
บางคนก็วิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทาง  จนไปติดอยู่กับขวากหนาม
บางคนก็ยืนกอดกันเป็นกลุ่ม แอบๆอยู่ข้างทาง จนมีวัวบางตัวเอาตัวมาเสียดสีก็มี
บางคนก็ตกใจร้องกรี๊ดกัน ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็มีคนช่วยเอาไว้ได้

หลังจากฝูงวัววิ่งผ่านไป ทุกอย่างสงบลง
ก็พากันกลับมารวมกลุ่มกันอีก เมื่อสำรวจคณะในกลุ่มแล้ว
ปรากฏว่าหายไปคนหนึ่ง
ทำให้ทุกคนต้องออกตามหากันบริเวณนั้น อยู่พักใหญ่
แต่ก็ไม่พบตัว จนเวลาจะพลบค่ำ ก็เลยต้องพากันกลับออกมาจากในป่า
แล้วไปแจ้งให้เจ้านาที่ทราบ ถึงการหายไปของชายคนนั้น

แต่ตอนนั้นหลายคนก็สันนิษฐานว่า ชายดังกล่าวน่าจะตกลงไปในหุบเขาข้างทาง
เพราะสำรวจดูบริเวณนั้น จะมีลักษณะที่ลาดชันลงมาจากทางที่เราเดิน

พอเจ้าหน้าที่ทราบข่าวเขาก็เลยพากันนำกำลังออกตามหาในคืนนั้นเลย

ด้านชายคนนั้น หลังจากที่ ฟื้นมีสติ เขาก็จำได้เพียงว่า
วิ่งหนีวัวเข้ามาข้างทาง แล้ว ตอนนั้นก็เกิดสะดุดขาตัวเองล้ม กลิ้งไปตามพื้น
วินาทีนั้นตัวเขาก็รู้สึกเหมือนว่า โดนผลักให้กลิ้งไปเรื่อยๆไม่หยุด
จนสลบไป มารู้สึกตัวอีกที ก็มืดแล้ว
ตื่นมาก็พบว่าตัวเอง อยู่กลางป่าคนเดียว ไม่มีใครเลย
แล้วก็ใช้ไฟฉาย ส่องเดินไปในป่ามืดๆเพียงลำพัง
รอบๆตัวเริ่มมีทั้งแมลง เริ่มมีทั้งเสียงจิ้งหรีด จักจั่นร้องกันระงม
ป่าที่เขาอยู่มันรกมาก จนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเดินไปทางทิศไหนดี
ทั้งขวากหนาม และ เถาวัลย์ ต้นหญ้าสูงใหญ่ ทำให้เดินทางลำบาก
ผ่านไปสักพักเนื้อตัวก็เริ่ม ถลอกเป็นแผล เพราะโดนทั้งหนามตำและใบหญ้าบาด

พอเดินทางมาได้สักพัก ก็เริ่มเป็นทางโล่งขึ้น
มีต้นไม้ใหญ่ไม่หนาแน่นเหมือนทางที่ผ่านมา
อยู่ๆก็ เขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า ต้องปีนต้นไม้ ขึ้นไป ให้สูงๆ
เผื่อจะเห็นแสงไฟ จากเต็นท์นักท่องเที่ยวแถวๆนั้น บ้าง
บางทีอาจจะเจอ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตั้งค่ายพักแถวนี้

พอปีนขึ้นไปได้ระดับหนึ่ง เขาก็เดินไปตามกิ่งไม้ใหญ่
เพื่อจะใช้เหยียบ ปีนขึ้นไปให้สูงที่สุด
แต่อยู่ๆขณะที่เอื้อมมือไป  จะไปจับกับต้นไม้อีกด้าน
พอวางมือกดลงไป เขาก็รู้สึกเหมือนว่า
จับโดนตัวอะไรนิ่มๆ มีขน
แล้วตัวนั้น  มันก็ รีบกระโจนออกจากต้นไม้นั้นทันที
ตัวมันใหญ่เกือบๆเท่าสุนัข
พอเห็นมันกระโจนออกจากที่ซ่อนตัว
เขาก็ตกใจ รีบปล่อยมือจนตัวเองตกลงจากกิ่งไม้
แต่โชคดีที่เขาคว้ากิ้งไม้ใกล้ๆตัวไว้ทัน
แต่ตัวก็ยังลื่นไถลลงมาตามต้นไม้นั้น
จนมาหยุดอยู่ที่กิ่งกิ่งหนึ่ง
แต่ไม่ทันได้พักให้หายใจหายคอ อยู่ก็มีเสียงหึ่งๆอยู่ที่ข้างหู
แล้วเขาก็รู้สึกเหมือนว่า โดนใครมาเขกหัวอย่างแรง
ยังไม่ทันจะอ้าปากร้อง ก็โดนเข้าไปอีกตามแขน ตามตัว
จนเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างแรง ต้องปล่อยมือ
โดดลงมาจากต้นไม้ใหญ่
แล้วก็วิ่งกระเจิงหนีพวกแตนอย่างไม่คิดชีวิต

ชายหนุ่มวิ่งหนี หลงไปในป่าไร้ทิศไร้ทาง
จนที่สุดก็มาเจอกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่ง
มีแสงไฟจางๆส่องออกมาจากกระท่อมหลังนั้น
เขารีบวิ่งไปที่กระท่อม ร้องเรียก ขอความช่วยเหลือ

ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วยครับ ผมหลงทางมา

สักพักก็ได้ยินเสียงเป็นชายแก่ๆ  ร้องตอบออกมาจากข้างใน

เออ.. รอเดี๋ยว รอเดี๋ยว

ไม่นานก็เห็นชายแก่เปิดประตู ถือ คบไฟ เล็กๆ เท่ากระป๋องนม เดินออกมา
พอชายแก่เห็นสภาพชายคนนั้น ก็ทักว่า
อ้าวไปโดนอะไรมา  ถึงหน้าตาบวมปูดอย่างนั้น
ชายหนุ่มก็เลย บอกว่า โดน แตน หรือ ต่อ ไม่รู้ต่อยมา

หลังจากชายแกพาเขา เข้ามาข้างใน กระท่อม
ก็เจอหญิงชราคนหนึ่ง หุ่มผ้าขี้งา นั่งอยู่ที่มุม มุมหนึ่ง
ตรง มุมหนึ่ง มีเตาไฟแบบใช้หินมาทำเป็นขาตั้งหม้อ
แล้วก็มีเศษขี้เถ้าอยู่ในเตาตรงนั้น แต่ยังมีไฟแดงๆอยู่ริบหรี่

ขณะที่เดินเข้าไป หญิงชราก็ถามชายแก่ว่า
ใครกัน ตา เขามาทำอะไร

ชายแก่ก็ตอบว่า เขาหลงทางมา โดนอะไรไม่รู้ต่อย
หน้าตาบวมไปหมด

หญิงชราก็เลยบอกว่า ตาเอาน้ำปูนขาวไปทางให้เขาซิ
น่าจะบรรเทาอาการได้

แล้วชายแก่ก็หันมาคุยกับชายหนุ่มคนนั้นว่า
รอเดี๋ยวนะ 
ว่าแล้วชายแก่ก็เดินไปที่มุม มุมหนึ่ง ที่มีคล้ายๆถุงเก็บของอะไรห้อยไว้เต็มไปหมด

ชายหนุ่ม นั่งอยู่ข้างๆ กองไฟที่ยังไม่มอดดับ
แล้วก็ถามว่า อยู่กันแค่สองตายายเท่านั้นหรือครับ

แล้วเสียงยายก็ตอบว่า จ๊ะ 

ชายหนุ่มนั่งพักได้เดี๋ยวหนึ่ง ตาก็เอา น้ำปูนขาวมาให้ทาตามเนื้อตามตัว
ตาก็ช่วยทาตามหัว ตามท้ายทอย
ชายหนุ่มเปิดกระเป๋า หายาแก้ปวดมากิน
โชคดีที่เขาเอาติดตัวมาด้วยทั้งยาแก้แพ้ และแก้หวัด

หลังจากกินยาเสร็จ มองไปรอบๆมันแทบจะไม่มีที่นอนเลย
ชายแก่เหมือนรู้ว่าเขาต้องการพักผ่อน
ก็เลยเดินไปที่ซอกด้านข้าง ที่ดูเหมือนเป็นช่องประตู
ชายหนุ่มก็เดินตามไปดู
ชายแกก็พูดว่า
มีแต่ห้องเก็บฟืนเล็กๆ พอจะนอนได้ไหม พ่อหนุ่ม
ชายหนุ่มมองไปในห้องเล็กๆ มีไม้เป็นท่อนๆกองอยู่
แล้วก็มีซอกทางเดินพอที่จะให้คน ไปนอนได้ 1 คนพอดี

ชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า
ถ้ามีอะไรปูก็น่าจะนอนได้อยู่ครับ

ชายแก่ก็เลย เอาเสื่อเก่าๆมาปูให้ 
ชายหนุ่มก็เข้าไปจัดแจงที่ทาง แล้วก็เข้านอน

หลังจากปิดไฟฉาย  ในห้องเก็บฟืนที่ชายหนุ่มนอนอยู่ก็มืดสลัวๆลง
มีแค่แสงไฟจากคบไฟเล็กๆ ที่วางอยู่บนขื่อด้านนอก เล็ดลอดเข้ามาข้างใน

พิษของตัวต่อทำให้เขา นอนไม่หลับ
เลยได้แต่นอนลืมตาคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
หูเขาก็ได้ยินเสียง สองตายาคุยกัน
จนเขาต้องหันไปมองข้างๆผนังที่มีแสงลอดเข้ามา
ผนังเป็นผนังที่ใช้ใบไม้แห้งทำ เลยทำให้มีรูเล็กรูน้อยให้ส่องดูได้
เขาก็เลยมองลอดช่องที่อยู่ใกล้ๆ ไปดูสองตายาย ว่าทำอะไรกันอยู่

เห็นสองตายายนอนอยู่ด้วยกันแล้วก็คุยกันอยู่ในมุมมืดๆ
สักพัก ตาก็บอกว่า เรานอนกันเถอะยาย
ว่าแล้ว ยายก็เปิดผ้าห่มที่คลุมตัวออก
แล้วก็ยืดคอยาวไปเป่าคบไฟที่วางอยู่บนขื่อ

พอชายหนุ่มเห็นหญิงชรายืดคอยาวขนาดนั้น
ก็ตกใจสุดขีด  ร้องออกมาจนสุดเสียง
แล้วก็วิ่งทะลุผนังกระท่อมหายเข้าไปในป่าเลย

ตื่นเช้ามา ปรากกฏว่า เจ้าหน้าที่ไปพบชายหนุ่มคนนี้
นอนหมดแรง หน้าตาบวมเป่ง
อยู่ห่างไปจากจุดที่เขาหายตัวไปประมาณ 3 กิโล

พอพี่ผู้ชายคนนั้นเล่าจบ
แฟนผมก็พูดขึ้นว่า
แปลกดีคะ  เป็นเราเจอแบบนั้นคง แย่เลย....

ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับ EP แรกด้วยสาเหตุที่เนื้อเรื่องทั้งหมดมันยาวมากๆผมจึงไม่สามารถลงพร้อมกันในทีเดียวได้เพราะไม่งั้นจะไม่สามารถแชร์ให้ท่านอื่นได้รับชมได้ครับผมและถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์กดติดตาม
พูดคุยให้กำลังใจหรืออยากจะด่าอะไรก็เชิญเลยครับผม😅 แต่อย่าแรงนะผมเสียใจ🤣🤣🤣🤣 วันนี้ขอตัวก่อนนะครับสวัสดีครับ🙏

ติดต่องานโฆษณา & รีวิวสินค้า: เพจเรื่องผีขยี้ขวัญ หรืFacebook แอดนิล ขยี้ขวัญ ดั้ยเล๊ยจ้า

ขออนุญาตฝากช่อง YouTube หน่อยนะจ๊ะ🙏🙏🙏

YOUTUBE เรื่องผี ขยี้ขวัญ :

https://-youtube.com/channel/UCXzuPITJdiasIFVOSN4YxBQ

YouTube ขยี้ขวัญ ไดอารี่ :

 https://-youtu.be/yaWQHpimd30

You cannot view this attachment.