• Welcome to รวมเครื่องรางของขลังทุกทิศทั่วไทย.
 

ไก่...หอน

เริ่มโดย บอย ท่าพระจันทโครพ, พ.ค 16, 2023, 07:09 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

บอย ท่าพระจันทโครพ

วันนี้มาลงเรื่องผีบ้างนะครับ กลัวลงแต่ตำนานคดีต่างๆ ทุกคนจะเบื่อ และเรื่องนี้มีให้รับชมใน YouTubeด้วยน๊าาาา เช้นเดิมผมจะทิ้งลิงค์ไว้ด้านล่างน๊าาาาา @นิล

รับฟัง ไก่หอน ได้ที่ลิงค์ด้านล่างจ้าาา

https://-youtu.be/yA0yVrzKxxI

              บ้านของเราเป็นบ้านสวน  มีเนื้อที่ ๑ ไร่เศษ  รอบๆ บ้านมีต้นไม้ปลูกหนาทึบ  ส่วนมากจะเป็นต้นผลไม้ และพืชผัก ส่วนหน้าบ้านจะเป็นพวกว่าน หรือไม้ประดับ  มีเรือนกล้วยไม้ หลังบ้านสร้างคอกไก่ไว้

                       ครอบครัวเรามีสมาชิก ๗ คน  และมีอามาอาศัยอยู่ด้วยคนหนึ่งเป็น ๘ คน  อาชีพของพ่อ คือ ทำนา  นาของเราห่างจากบ้าน ๓ กิโลเมตร  เป็นหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอชนบทจังหวัดขอนแก่น  ผมเป็นลูกคนที่ ๒  กำลังเรียนอยู่ในอำเภอเมือง  เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ เดือนเมษายน พ.ศ ๒๕๒๕  ช่วงปิดเทอมพอดี

              อาของผมตอนมาอยู่แรกๆ ตกงานเลยมาทำนาช่วยพ่อ  พ่อก็แนะให้เข้าไปสอบข้าราชการ  เพราะอามีความรู้ถึง ม.ศ ๕  ช่วงที่อายังไม่รับราชการ  ได้เลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่ง  เป็นสุนัขไทยธรรมดา  อาตั้งชื่อให้มันว่าไอ้ขาว

               ในที่สุดอาก็สอบได้  และเดินทางไปรับราชการที่จังหวัดตาก  แรกๆ ก็มีจดหมายจากอามาสม่ำเสมอ  แล้วปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา  ก็ไม่มีจดหมายมาจากอาอีกเลย

                แล้วในคืนวันหนึ่ง  เป็นคืนเดือนมืด  เจ้าขาวสุนัขของอา  ก็เห่าด้วยเสียงดังมากและส่งเสียงดีใจคล้ายกับเห็นเจ้าของ  เสียงดังจนพ่อต้องลุกขึ้นมาดู  เพราะถ้าเจ้าขาวเห่าอย่างนี้แสดงว่าอาต้องกลับมา  แต่พ่อกลับเข้าบ้านมาคนเดียว  บอกว่าไม่เห็นมีใคร  ผมรู้สึกแปลกใจมาก  กะจะลุกไปดูอีกเพราะเจ้าขาวยังส่งเสียงอีกเหมือนเดิม  แต่แล้วผมก็ต้องหยุดชะงัก  เพราะคราวนี้เจ้าขาวไม่ได้เห่าแบบเดิม  มันหอน  เสียงเยือกเย็นจนผมขนลุกไปทั้งตัว  ผมเปลี่ยนไม่ได้ไปดูทันทีเพราะข้างนอกตัวบ้านมีแต่ต้นไม้ขึ้นมืดครึ้มประกอบกับลมแรง  ผมกลัวมาก  พ่อได้ปลอบใจเราทุกคน  แล้วพ่อก็ได้บอกว่าจะไปดูเอง  แต่ก่อนไปผมเห็นพ่อสวมพระองค์โต กับลูกประคำด้วย  พ่อคงกลัวเหมือนกัน 

            พ่อกลับมาเหมือนเหนื่อยหอบ  บอกว่าเห็นไอ้ขาวมันหอนหันหน้าไปทางประตูบ้าน  พ่อว่าเห็นเงาตะคุ่มๆ  ของใครสักคนจึงเดินไปดู  แต่พอไปถึงกลับไม่เห็นอะไร  พอจะเดินกลับก็คล้ายมีเสียงคนเรียก  พ่อจึงรีบวิ่งเข้าบ้าน  ท่าทางพ่อกลัวมาก  และพูดเสียงสั่นๆ ว่าเสียงเรียกนั้นคล้ายเสียงของอา

             คืนนั้นไอ้ขาวหอนตลอดคืน  พ่อทนไม่ไหวจึงลุกออกมาพร้อมกับไฟฉาย  มือถือไม้ตะพดมาด้วย  กะจะไล่ตีไอ้ขาว  ครั้งนี้พ่อชวนผมออกมาด้วย  พ่อฉายไฟตามเสียงหอนของไอ้ขาว  แสงไฟกระทบกับดวงตาของมัน  ปรกติดวงตาเมื่อโดนแสงจะเป็นประกายทั่วไป  แต่คราวนี้ผมสังเกตเห็นดวงตาของมันที่กระทบกับแสงไฟเป็นสีแดงวาว ส่องประกายออกมาอย่างน่ากลัว  มันหยุดหอนและครางเสียงเศร้าๆ ออกมาเหมือนจะรู้ว่าพ่อกำลังคิดจะทำอะไรกับมัน  มันรีบเดินหนีออกจากบ้านไปทันที  รุ่งเช้าทุกคนช่วยกันตามหาไอ้ขาว  แต่ก็หาไม่พบ  และเช้านั้นเองเราก็ได้ทราบข่าวร้าย  ว่าอาได้เสียชีวิตลงแล้ว  โดนลอบยิงตายได้ ๓ วันแล้ว

              งานศพอาผ่านไปได้ ๑๐ กว่าวัน  เราลืมเรื่องไอ้ขาว  ตกดึกคืนนั้นจำได้ว่าเป็นเดือนมืด  เราทุกคนก็ได้ยินเสียงหอนอย่างโหยหวนเยือกเย็นของไอ้ขาว  จนทุกคนขนลุก  เสียงดังมาจากทางหลังบ้านเรานี่เอง  ซึ่งหลังบ้านได้ทำคอกไก่ไว้หนึ่งหลัง  ไม่ใหญ่มากนัก  สูงและกว้างประมาณ ๒ เมตรครึ่ง  แต่ไม่มีใครกล้าออกไปดูเพราะกลัว 

             รุ่งเช้าผมไปดูที่คอกไก่  เห็นไก่นอนอยู่ตัวหนึ่ง  ประตูคอกเปิดไว้  ไก่ที่เหลือออกไปหากินหมดแล้ว  ผมคิดว่าไก่ตัวนั้นคงเป็นหวัดจึงไปอุ้มดู  ปรากฏว่าไก่ตัวนั้นแข็งแล้ว  แสดงว่าตายตั้งแต่เมื่อคืน  ทุกคนลงความเห็นว่าควรต้มกิน  พ่อก็จัดการทันที  เมื่อกินเสร็จผมก็เอะใจ  ทำไมไม่เห็นมีตับไก่ ถามใครก็บอกไม่ได้กิน

              เว้นระยะอีก ๓ วัน เหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีก  คือได้ยินเสียงไอ้ขาวหอนอยู่บริเวณคอกไก่  แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาดูอีก  รุ่งเช้าพบไก่ตายอีก ๑ ตัว  เมื่อผ่าท้องดูก็พบว่าไก่ตัวนั้นไม่มีตับ  และมีรอยถูกกัดบริเวณกึ๋น  เป็นเช่นนี้อีก ๑ ครั้ง  โดยเว้นระยะเวลา ๓ วัน  มันคงจะเกิดขึ้นอีกแน่

              คราวนี้พ่อชวนเพื่อนบ้านมานอนในบ้านเรา  นอนคอยด้วยใจระทึก  ทุกคนมีมีดเป็นอาวุธ  ยกเว้นพ่อมีปืนพกสั้น  จนเวลา ๕ ทุ่มกว่า  ก็ได้ยินเสียงหอนอันดัง และเยือกเย็น  พ่อรีบบอกทุกคนให้รู้ตัวแล้ว  ก็ค่อยๆ ย่องไปที่คอกไก่  พ่อถือไฟฉายไปด้วย  พวกเราแอบซุ่มอยู่ใต้ต้นขนุน ใกล้คอกไก่ ๑ เมตร  แล้วก็จ้องไปที่คอกไก่  คืนนั้นเป็นคืนค่อนข้างมืด  มองอะไรพอจะเห็นอยู่บ้างรางๆ  แล้วทุกคนก็ได้ยินเสียงเปิดประตูคอกไก่  แต่พ่อยังไม่ส่องไฟรอให้แน่ใจก่อน    แต่คราวนี้เราทุกคนได้ยินเสียงหอนอันเยืออกเย็นอีกครั้ง  เสียงหอนดังมาจากในคอกไก่  พ่อฉายไฟไปที่คอกไก่ทันที  แสงไฟกระทบกับดวงตาข้างหนึ่ง  ดวงตาข้างนั้นหันมาทางพ่อ  เราทุกคนตกใจ  เพราะดวงตาที่เราเห็นนั้น  เป็นสีแดงส่งประกายน่ากลัว  ผมนึกถึงตอนพ่อฉายไฟใส่ไอ้ขาว เมื่อคืนนั้นขึ้นมาทันที

                  แล้วสิ่งที่ผมตกใจมากก็คือ  ผมเห็นดวงตานั้นเป็นดวงตาของไก่  ไอ้เขียว ไก่ของพ่อมันโก่งคอคล้ายจะขัน  แต่ทว่าเสียงที่ออกมานั้นเป็นเสียงหอนอันเยือกเย็นของไอ้ขาว  ผมไม่รู้สึกตัวคล้ายตะคริวกิน  ก้าวขาไม่ออก  รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงปืนของพ่อ  ผมถามคนข้างๆ  เขาบอกว่าพ่อยิงไก่ผีตัวนั้นแล้ว  ผมจึงมองเข้าไปในคอกไก่  น้าสุขเป็นคนส่องไฟให้พ่อ  ผมเห็นไก่ตัวนั้นมันยังไม่ตาย  มันยืนจังก้าอยู่  แล้วผมก็เห็นน้าสุขซึ่งแกเป็นคนไม่กลัวผี  ยกมือพนมบ่นพึมพำ  สักครู่ผมจึงเห็นไก่ตัวนั้นล้มลงตกสู่พื้น  แล้วเราก็พากันเข้าบ้าน  ผมเข้าบ้านเกือบคนสุดท้าย  เพราะข้างหลังผมเป็นน้าสุข 

                  ผมหันไปดูที่ที่คอกไก่อีกครั้ง  ผมดีใจมาก  เพราะผมเห็นไอ้ขาวนั่งอยู่หน้าคอก  ถึงจะมองไม่ชัดแต่ผมก็จำได้  ผมบอกน้าสุขให้ดู  แต่พอน้าสุขหันไปดูกับไม่เห็นไอ้ขาวแล้ว  แกหาว่าผมคิดมาก  คืนนั้นไม่มีใครหลับ  ต่างพากันกินเหล้าอยู่กับพ่อ

                  รุ่งเช้าเราก็ระดมคนออกค้นหาไอ้ขาว  คราวนี้เราพบไอ้ขาวนอนตายอยู่กลางทุ่งนาของน้าไหม  ห่างจากบ้านผม ๕ กิโลเมตร สภาพศพเน่าเละเกือบจะจำแทบไม่ได้  ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล  ผมเฝ้าอยู่จนเขาฝังศพไอ้ขาวเสร็จจึงกลับบ้าน

                 จากนั้นเราก็ไปขอนอนบ้านน้าสุข  และขายบ้านหลังนั้นไป  ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง  ทุกคนพยายามจะลืมเรื่องของไอ้ขาว  ไม่มีใครพูดถึงมันอีกเลย

You cannot view this attachment.